DOD อานิสงส์ออเดอร์ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร-ออสเวลไลฟ์ ทะลัก หนุนโค้งสุดท้ายผลงานพุ่งทะยาน แตะ 175 – 200 ล้านบาท

บมจ. ดีโอดี ไบโอเทค หรือ “DOD” เสิร์ฟข่าวดีโค้งสุดท้ายของปี 67 โกยรายได้ออเดอร์จากการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 100-120 ล้านบาท พร้อมโกยรายได้จาก “ออสเวลไลฟ์” ที่ 75-80  ล้านบาท หนุนไตรมาส 4/67 รายได้ทะยานแตะระดับ 175-200 ล้านบาท แย้มเจรจาลูกค้ารายใหม่ หวังสร้างการรับรู้รายได้ที่มั่นคง เผยบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีการจ่ายหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำ และมีกระแสเงินสดเพียงพอเพื่อขยายการลงทุนในอนาคต

นายต่อลาภ ไชยเชาวน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาส 4/2567 เติบโตในทิศทางที่ดี โดยยอดขายรวมของบริษัทฯ กลับมาสู่ระดับปกติเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ คาดว่ายอดขายจากฐานการผลิต (Production Base) จะอยู่ที่ประมาณ 100-120 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายจากฐานการค้าปลีก (Retail Base) ภายใต้ บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL)  ในไตรมาสเดียวกัน คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 75-80 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ไตรมาสสุดท้ายของปี2567 DOD จะมีรายได้จากยอดขายรวมที่ประมาณ 175-200 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมผลประกอบการในปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ยังมีการสั่งผลิตสินค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง  โดยมีการออกสินค้าใหม่ๆ ทั้งจากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ในทุกเดือน ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ ที่เป็นฐานการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายจากกลุ่มค้าปลีกภายใต้ บริษัท ออสเวลไลฟ์ จำกัด (AWL) ซึ่งดำเนินการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “Auswelllife” นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ก็เป็นไปในทิศทางที่ดีเช่นกัน

อีกทั้งบริษัทฯ ยังฐานะทางการเงินที่มั่นคง เพราะหนี้สินต่อทุน (DE Ratio) อยู่ในระดับที่ต่ำ เนื่องจาก  มีการจ่ายคืนหนี้สถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง และยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เพียงพอในการขยายงานและการลงทุนในอนาคต

นอกจากนี้ ในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มสินค้าเดิมที่มียอดขายดีและมีคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังมีการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งพิจารณาได้จากการขยายกำลังการผลิต โดยได้ลงทุนติดตั้งเครื่องจักรสำหรับทำกัมมี่ (Gummies) เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังการผลิตที่1แสนชิ้นต่อวัน (เฉลี่ยประมาณ 2.5 ล้านชิ้นต่อเดือน) โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถผลิตสินค้าประเภทกัมมี่ (Gummies) ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2568 และจะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ ภายในไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป สำหรับความต้องการอาหารเสริมในรูปแบบกัมมี่ (Gummies) เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความนิยมมากขึ้น ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่นิยมรับประทานง่ายและมีประโยชน์

“สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารเสริมในปี 2568 นั้น บริษัทฯ มองว่า เทรนด์ของคนรักสุขภาพยังคงมีต่อเนื่อง โดยผู้เล่นรายใหม่จะเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป แต่ปัจจุบันกลุ่มที่หันมาทำธุรกิจเสริมอาหารจะเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือและยอมรับ อย่างกลุ่มหมอ  มากขึ้น ดังนั้น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต้องมีคุณสมบัติที่มีมาตรฐานระดับสูง ซึ่งต้องผ่านการผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพระดับสูงด้วยเช่นกัน”

- Advertisement -