PRM เปิดแผนปี 68 ลั่นผลงานโตต่อเนื่อง ปิดดีลคว้าลูกค้าใหม่ “บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี” รับรู้รายได้ทันทีต้นปี 68
PRM ลั่นปี 67 ผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเปิดแผนปี 68 ปัจจัยสนันสนุนจำนวนเรือเพิ่มขึ้น แถมเรือ Crew Boat ฮอต! เซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่ บริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในUAE จำนวน 2 ลำ เร่งลุยต่อ Crew Boat ใหม่เพิ่มอีก 2 ลำ ให้บริการ PTTEP พร้อมทุ่มงบซื้อเรือ FSU เก็บดีมานด์ตลาดปี 68 ทุกเซ็กเมนต์ คาดผลงานเติบโตโดดเด่น
นางสาวสุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายพาณิชย์และการลงทุนบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามแผนที่วางไว้ และถือเป็นปีที่ดีของบริษัท เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของกองเรือใหม่ที่เข้ามาตั้งแต่ต้นปี 67 พร้อมกับการฟื้นตัวของธุรกิจ FSU
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2568 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2567โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนเรือให้บริการที่เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่ บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี หรือ ADNOC ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดใน UAE เพื่อให้บริการเรือ Hybrid Crew Boat จำนวน 2 ลำ ภายใต้สัญญาระยะยาว โดยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาด และขยายการให้บริการไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่มีศักยภาพและมีขนาดใหญ่ เพื่อต่อยอดการเติบโตในอนาคต
อีกทั้ง ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเข้างานของเรือ Aframax ที่นำไปดัดแปลงเป็นเรือสนับสนุนการผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (Floating Storage and Offloading Vessel หรือ FSO) โดยจะเริ่มให้บริการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEPตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป ภายใต้สัญญาระยะยาว ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ที่แน่นอน นอกจากนี้ยังมีการต่อเรือใหม่ เป็นเรือ Crew boat อีก 2 ลำ คาดว่าจะรับรู้รายได้ในเดือนกุมภาพันธ์ และมิถุนายน 2568 เพื่อให้บริการกับ PTTEP ภายใต้สัญญาระยะยาวเช่นกัน
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลงทุนซื้อเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (Floating Storage Unit หรือ FSU) ลำใหม่เพิ่มเติม ขนาด 306,352 DWT ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุงเรือก่อนเข้าให้บริการ โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1 ปี 2568 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ในปี 2568 จะยังสามารถเห็นรายได้ของธุรกิจตัวแทนสายเดินเรือและออกของได้ชัดเจนขึ้น จากการรับรู้รายได้จาก บจก. วี.ซี.ชิปปิ้ง แอนด์ เซอร์วิส แบบเต็มปี หลังการเข้าซื้อกิจการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยบริษัทดังกล่าว เป็นบริษัทชั้นนำในด้านธุรกิจ Shipping ของสินค้าในกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี จึงเป็นโอกาสสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับธุรกิจในอนาคต
“ภาพรวมแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2567 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนเรือ FSU ที่เพิ่มขึ้น และเรือ FSO กลับเข้ามาให้บริการ รวมทั้งกลุ่มเรือ Crew boat ที่เพิ่มขึ้นอีก 4 ลำ ทั้งหมดล้วนผลักดันให้ผลประกอบการปี 2568 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงในระยะยาว” นางสาวสุธาสินี กล่าว