Daily Focus: คาด SET แกว่ง Sideways / / January Effect เกิดหรือไม่?
2025 SET Target: 1600
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลดลง 15.64 จุดในปี 2024 หรือคิดเป็น 1.1% ปิดที่ 1,400.21 จุด โดยได้กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ สื่อสารฯ ธนาคาร ช่วยประคองดัชนี ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 4.9 หมื่นลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหนาแน่นต่อเนื่องอีก 1.5 แสนลบ. (แต่ Long Index Futures สุทธิบางๆ 1.7 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่ง Sideways เปิดปีบริเวณ 1,400 จุด โดย ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นหลังผ่านช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ โฟกัสของตลาดยังอยู่ที่การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในวันที่ 20 ม.ค. 2025 ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้ออย่างไรโดยเฉพาะนโยบายภาษีสินค้านำเข้า แม้ว่าตามสถิติ SET มักจะ rally ในเดือน ม.ค. ด้วยความน่าจะเป็น 70% แต่คาดว่า upside ยังจำกัด นอกจากนี้ยังอาจมีแรงกดดันบ้างจากเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดขายได้ในปี 2025 จำนวนราว 7.4 หมื่นลบ. แต่ด้วยดัชนีปี 2019 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับสูงถึง 1,600 จุด ทำให้แรงขายอาจไม่สูงมาก ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการแจกเงินหมื่น Easy e-Receipt รวมถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่ม Domestic plays ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นหนึ่งในกลุ่มที่น่าลงทุนในปี 2025 แนวต้านสำคัญระยะสั้นของ SET อยู่ที่ 1,410 จุด หากสามารถกลับมายืนเหนือได้จะทำให้โมเมนตัมลบที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้าถูกลบ ล้างไปได้ ส่วนภาพระยะกลาง-ยาวหากเศรษฐกิจไทยและกำไรบจ.ยังสามารถฟื้นตัวได้ตาม คาดในเชิง Valuation ระยะกลาง-ยาว เรายังมองว่าน่าสนใจ โดยเทรด PER ต่ำเพียง 14.3 เท่าและให้ Earnings Yield Gap ราว 4.74%
กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : CRC, MASTER, NSL, SEAFCO, SHR
FSSIA Portfolio: BA, CHG, CALL, KTB, MTC, NSL, RBF, SEAFCO, SHR, WHA
หุ้นเด่น Finansia 2 ม.ค. 24 : SHR
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.80 บาท
- คาดผลการดำเนินงาน 4Q24 แข็งแกร่งด้วยเป้าRevPar ที่คาดเติบโต 10-15% ซึ่งคาด 4Q24 น่าจะสามารถพลิกกลับเป็นกำไรได้ โครงการปรับปรุงโรงแรมSAii Laguna Phuket คาดจะเสร็จเร็วกว่าแผน อีกทั้งโรงแรม SO/Maldives เข้าสู่ High season
- บริษัทคาด RevPar ปี 2025 จะเติบโต 13-15% y-yทำให้เรายังคงคาดกำไรปกติปี 2025 จะเร่งขึ้นเป็น 367 ลบ. +145% y-y จุดเด่นยังคงเป็น Valuation ที่ถูก โดยเทรด PBV เพียง 0.5 เท่า
- แนวรับ 2.34-2.32 บาท แนวต้าน 2.50-2.56 บาท
Fund Flow : ช่วง 2 วันสุดท้ายของปี 2024 กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาครวม US$626 ล้าน โดยกระจุกที่ไต้หวันและอินเดีย ซึ่งเป็นไม่กี่ตลาดที่เปิดเทรด โดยเฉพาะวันสุดท้ายของปี สำหรับภาพทั้งปี 2024 กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$22,742 ล้าน เทียบกับปี 2023 ที่กระแสเงินไหลเข้า US$9,888 ล้าน เม็ดเงินในปี 2024 ไหลออกจากไต้หวัน US$18,203 ล้าน ส่วนเกาหลีใต้ เม็ดเงินไหลเข้า US$2,426 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกรวม US$3,386 ล้าน ต่อเนื่องจากปี 2023 ที่ไหลออก US$6,724 ล้าน โดยในปี 2024 ไหลออกจากไทยมากที่สุด US$4,132 ล้าน และฟิลิปินส์ US$408 ล้าน แต่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$1,154 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะทรงตัวโดยยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยววันหยุดปีใหม่ของบางประเทศ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลยุทธ์ลงทุนเดือน ม.ค. 2025 คาด SET ฟื้นตัวหลังจากปรับลงในเดือนก่อนหน้า หนุนจากกำไรบริษัทจดทะเบียน 4Q24 ที่คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ อีกทั้งจากตัวเลขสถิติในอดีตมีโอกาสเกิด January Effect กว่า 70% อย่างไรก็ตาม upside จะยังจำกัดจากการกลับมาของนโยบายการค้าของทรัมป์ เศรษฐกิจโลกยังแข็งแกร่งและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายน่าจะทัดทานกับความเสี่ยงขาลงจากภาษีการค้าที่สูงขึ้น ขณะที่การบริโภคและการลงทุนที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย เรายังคงให้เป้า SET ปี 2025 ที่ 1,600 จุด หุ้นที่ชอบได้แก่ BA CHG CPALL KTB MTC NSL RBF SEAFCO SHR และ WHA
(+) กลุ่มท่องเที่ยว ภาพรวมเดือน ธ.ค. นักท่องเที่ยวรวม 3.6 ล้านคน ฟื้นตัวคิดเป็น 92% pre-Covid โดยนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวคิดเป็น 63% pre-Covid จบปี 2024 นักท่องเที่ยวรวม 35.5 ล้านคน ดีกว่าที่เราคาด 2% และคิดเป็นการฟื้นตัว 89% pre-Covid โดยนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว คิดเป็น 61% pre-Covid และ non-Chinese ฟื้นตัวคิดเป็น 100% pre-Covid โดยมี highlight คือ นักท่องเที่ยวมาเลเซีย, อินเดีย และรัสเซีย สูงกว่า pre-Covid 18%, 7% และ 18% ตามลำดับ
(0) ตลาดน้ำมันดิบอาจตึงขึ้นในปี 2025 แม้ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 วันที่ผ่านมาที่ได้แรงหนุนจากตัวเลข PMI ของจีนยืนสูงกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ส่วนราคา น้ำมันดิบเบรนท์ปิดสิ้นปี 2024 ลดลง 3% y-y และ WTI ทรงตัว Y-Y อย่างไรก็ดีแนวโน้มราคา น้ำมันดิบปี 2025 ยังมีโอกาสชะลอตัวสูงจากนโยบายของทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายผลิตน้ำมันเพิ่ม 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ผลิต 12-13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่กลุ่มโอเปกยังเลื่อนการเพิ่มกำลังผลิตออกไปไม่มีกำหนด ส่วนฝั่ง demand จะขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนแต่ก็ส่อแววซบเซา รวมถึงนโยบายการค้าของทรัมป์อาจกระทบต่อการค้าโลก ดังนั้นหุ้นกลุ่นน้ำมันอาจไม่โดดเด่นและให้น้ำหนักลงทุนเพียง Neutral หรือ เก็งกำไรเป็นรอบระยะสั้นๆ
(0) หุ้นเข้า-ออก SET50/100 งวด 1H25 SET50 หุ้นเข้า BANPU SAWAD COM7 CCET หุ้นออก TIDLOR CENTEL BCP EA ส่วน SET100 หุ้นเข้า CCET JTS COCOCO PR9 หุ้นออก MBK TOA TIPH RBF
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่
(+) ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เปิดบวกในวันเปิดทำการวันแรกของปี
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 34.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 0.59%
(+) ตลาดน้ำมันปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 72.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.49%
(-) ตลาดทองคำปิดทำการเนื่องในวันปีใหม่ ในขณะที่เช้านี้ลดลงอยู่ที่ระดับ 2,639.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.05%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 872.50/-
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
2 ม.ค. | จีน: Caixin Manufacturing PMI (ธ.ค.) |
3 ม.ค. | สหรัฐ: ISM Manufacturing PMI (ธ.ค.) |
6 ม.ค. | ไทย: เงินเฟ้อ (ธ.ค.) |
7 ม.ค. | ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ธ.ค.) สหรัฐ: ISM Services PMI (ธ.ค.) |
8 ม.ค. | สหรัฐ: รายงานการประชุมเฟด |