KS Daily View 06.01.2025 >>> มอง SET แนวโน้มปรับตัวลง การลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1,360 – 1,400 จุด หุ้นแนะนำ TMAN, KTB
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้ : คาดตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบหลังปรับตัวลงแรงต้นปี โดยประเมินสัปดาห์นี้ SET indexเคลื่อนไหวในช่วง 1,360 – 1,400 จุด อย่างไรก็ดี การลงทุนยังต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากแนวโน้มหลักของดัชนียังเป็นภาพของการปรับตัวลง ด้านขายยังคงเป็นด้านที่ได้เปรียบกว่าด้านซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯระยะ 10 ปี ยังคงอยู่ในระดับสูงราว 4.5% หลังที่ประชุม FOMC ของ Fed ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ อีกทั้งสหรัฐฯประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ล่าสุดลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐฯยังแข็งแกร่ง และส่งผลต่อเนื่องให้ค่าดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯปรับแข็งค่าทะลุระดับ 109 จุด ซึ่งทำให้บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเป็นลบ สำหรับสัปดาห์นี้ปัจจัยที่ติดตามคือ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯสำหรับเดือน ธ.ค. 2567 ที่มีกำหนดรายงานในช่วงวันศุกร์ ทั้งนี้ตลาดมองตัวเลขชะลอตัวลงหลังฟื้นตัวแรงในเดือนก่อนหน้าภายหลังผลของการหยุดงานประท้วงและผลกระทบจากสภาพอากาศ
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : ประเมินดัชนีเชิงบวกในสัปดาห์นี้ คาดปรับตัวในกรอบ SET index ที่ 1,360 – 1,400 จุด เรามอง Theme การลงทุนสัปดาห์นี้คาดหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวของค่าเงินบาทตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งจะทำผลงานได้ดี รวมถึงหุ้นขนานใหญ่ที่มีความผันผวนต่ำ หรือให้อัตราเงินปันผลระดับสูง ราคาหุ้นคาดว่าจะมีเสถียรภาพดีกว่าตลาดที่อาจเผชิญกับความผันผวน หุ้นแนะนำในสัปดาห์นี้เช่น PTT KTB TMAN SAV TRUE
ข่าวและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน
1.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4/2567 จาก เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 1/2567,3.0% ในไตรมาส 2 และ 2.8% ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
2.สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.3 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2567 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.4 จากระดับ 48.4 ในเดือนพ.ย. ดัชนีได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่ถูกกดดันจากภาวะหดตัวของการจ้างงาน
3.หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารส่งออก นำเข้าของจีน GACC ออกประกาศห้ามนำเข้าสินนค้าน้ำตาลจากประเทศไทย 2 รายการคือ น้ำเชื่อม กับน้ำตาลผสมล่วงหน้า เนื่องจากตรวจพบความเสี่ยงความปลอดภัยของอาหารไม่เป็นไปตามกฏระเบียบที่กำหนด จะมีผลกับสินค้าน้ำตาลที่ส่งออกหลังวันที่ 10 ธค เป็นต้นมา
4.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ เห็นชอบงบประมาณปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทโดยมีการประเมินรายได้สุทธิที่ 2.92 ล้านล้านบาท ขาดดุลลดลงเหลือ 8.6 แสนล้านบาท จากปี 2568 ที่ขาดดุล 1 ล้านล้านบาท โดยเน้นลงทุนแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและลดการขาดดุลงบประมาณในระยะ 4 ปีข้างหน้า คาดเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน
5.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขายหุ้นเพิ่มทุนที่ราคา 4.48 บาทต่อหุ้น ในช่วง 6-12 ธค 67 ที่ผ่านมาได้เงินเพิ่มทุนราว 2.3 หมื่นล้านบาทต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2.5 หมื่นล้านบาท แต่ คุณชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้สัมภาษณ์ การบินไทยจะเป็นเอกชน 100% ขึ้นอยู่กับการกำหนดสัดส่วนบอร์ดบริหารชุดใหม่ และเป้าหมายการลงทุน คือการจัดหาฝูงบินใหม่ 45 ลำ, ปรับปรุงเครื่องบินโดยเฉพาะเครื่องลำตัวกว้าง และ สร้างศูนย์ซ่อม (MRO) จำนวน 3 แห่ง ที่อู่ตะเภา, ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ
Daily pick
TMAN: ราคาพื้นฐานที่ 26.10 บาท
มีมุมมองเชิงบวก ภายหลังจากสามารถขึ้นทะเบียน propolis เป็นยาแผนปัจจุบันได้ จะสามารถเข้าไปขายได้ใน รพ ทั้งเอกชนและรัฐบาลซึ่งสามารถเบิกประกันได้ และ การเติบโตในช่องทางโรงพยาบาลราว 13% จะเติบโตขึ้นเป็น 17% ใน ปี 2025 มาจากการนำยา new generic drug เข้าไปขาย ทั้ง Attor40 ที่เริ่มได้รับความนิยม ตั้งแต่ใน 3q24 และกลุ่มยาเบาหวาน Maniptinที่สามารถขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ได้แล้วและเข้าโรงพยาบาลรัฐให้ได้ และจะมียาใหม่ เช่น ยาปลูกผม ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดในปี 2025 โดยคาดว่ารายได้จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในปีหน้า ตลาดส่งออกยังเป็นอีก growth driver ที่ใน 9m24 เติบโตมา 11.5% เราคาดรายได้ TMAN ปีหน้าจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 10-15%
KTB: ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกจาก Loan ในเดือน พย ยังโตได้ 1.2% mom และ 1% yoy หลักๆ มาจาก corporate loan และ government loan ที่มีสัดส่วนราว 27% กับ 16% ตามลำดับ 4q24 น่าจะโต yoy ได้เพราะไม่มีสำรองขนาดใหญ่เหมือน 4q23 ที่ผ่านมา โดยมองว่าAsset quality ใน 3Q24 ที่ผ่านมามี NPL และ NPL formation ลดลงเพียงไม่กี่รายในกลุ่ม ธนาคารจากความปลอดภัยของลักษณะสินเชื่อที่มีการทำ MOU สำหรับลูกค้ากลุ่ม personal loan และ mortgage loan ที่มีสถานะเป็นลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจให้สามารถหักเงินเดือนมาชำระหนี้ได้ คิดเป็น 90% และ 50% ตามลำดับ รวมเป็น 30% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดและอีก 16% ที่เป็น government loan ทำให้ loan port ราว 46% ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคุณภาพสินทรัพย์ในอนาคต นอกจากนี้เรามองโอกาสในการเพิ่ม payout ratio จาก 35% หรือ Dividend yield ที่ 6% ได้อีกเมื่อเทียบกับ peers อีกทั้ง valuation ยังอยู่ใน zone ถูกเมื่อเทียบกับ Potential ROE ในอนาคต
รานงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (Caixin Manufacturing PMI) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.4 จุดปรับตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 51.5 จุด ต่อด้วยตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH CPI) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +1.40% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.95% YoY และอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (TH Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ +0.85% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.80% YoY ปิดท้ายด้วยยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน (Factory Orders) ในสหรัฐ เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.3% MoM หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.2%% MoM
วันอังคาร ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของฝั่งยุโรป (EU CPI) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.4% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.2% YoY ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงานของฝั่งยุโรป (EU Unemployment rate) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 6.3% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ในส่วนตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของสหรัฐ (ISM Service PMI) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 53.0 จุด เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.1 จุด ปิดท้ายด้วยตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ของสหรัฐ (JOLTS Job openings) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 7.00 ล้านตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.74 ล้านตำแหน่ง
วันพุธ ติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐ (FOMC minutes)
วันพฤหัสบดี ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ประกาศโดย Automatic Data Processing (ADP Non-Farm Employment Change) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.30 แสนตำแหน่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.46 แสนตำแหน่ง และการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.11 แสนตำแหน่ง
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.53 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.27 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate)เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า