แหวก ว่าย อยู่ใต้ 1,400 / 1,375-1,400
คาด SET แกว่งตัวลงต่อ: แรงกดดันจากความ กังวลทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ท่าทีของทรัมป์ และปัญหาการใช้หุ้นวางเป็นหลักประกันในบัญชีมาร์จีนของผู้บริหาร
กลยุทธ์การลงทุน
- เก็งงบ 4Q67: AMATA, AP, BBL, BCH, KBANK, KTB, KTC, PR9, TCAP, TTB
- Spending+มาตรการรัฐ: ADVICE, AU, CPN, CRC, DOHOME, HMPRO
- Selective: ASIAN, PSL, TFM, NER, HANA, GULF
ตัวเลขแรงงานสหรัฐสดใส เฟตอาจเปลี่ยนใจไม่ลดดอกเบี้ย : ตัวเลข ผู้ขอสวัสดิการครั้งแรกประจำสัปดาห์ของสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้น 2.01 แสนราย เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.14 แสนราย และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค. 67 และเป็นการลดลงต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ สะท้อนภาพการฟื้นตัวของตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง Upside ของตลาดหุ้นสหรัฐถูกจำกัดท่ามกลางความกังวลทิศทางนโยบายการเงินของเฟดที่อาจเอนเอียงไปในเชิง Hawkish มากขึ้นเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวตามภาพการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสอดคล้องกับทิศทางของ Fed watch tool ที่เพิ่มน้ำหนักความน่าจะเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.5% จาก 93.6% สู่ 95.2% ในรอบการประชุมช่วงปลายเดือนม.ค.68 ขณะที่รายงานการประชุม FOMC รอบเดือน ธ.ค. ระบุว่าที่ประชุมมีความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อและผลกระทบจาก ปธน. ทรัมป์ จึงอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ Dollar Index พลิกมาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 109 จุดหลังย่อ ตัวในวันก่อน กดดันต่อค่าเงินในเอเชีย นอกจากนี้นักลงทุนสหรัฐอาจเริ่มชะลอการลงทุนก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดวันชาติสหรัฐและชี้นำให้ตลาดหุ้นในเอเชียแกว่งตัวได้จำกัดเช่นกัน
ทรัมป์อาจประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ ส่งตรงกำแพงภาษีโดยไม่ต้องผ่านสภา : ซึ่งเป็นบัญญัติอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (EEPA) ซึ่งจะให้อำนาจ ปธน. ฝ่ายเดียวในการบริหารจัดการสินค้านำเข้าในช่วงที่มีภาวะฉุกเฉิน ซึ่งกรัมป์ได้เคยใช้มาแล้วกับประเทศเม็กซิโก ที่ไม่ยอมจัดการปัญหาผู้อพยพข้ามพรมแดนในปี 2562 แต่ภายหลังได้มีการเจรจากันจึงยกเลิกภาวะฉุกเฉินไป สร้างความกังวลให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐ รวมถึงไทยที่เคยถูก ITIF ชี้ว่ามีความเสี่ยงสูงเป็นอันดับ 2 ที่จะเผชิญกำแพงภาษี
วิกฤติศรัทธามาร์จี้นกดดันตลาด : หลังกลตเผยว่าผู้บริหารหุ้น RS ได้มีการนำหุ้นไปวางค้ำประกันกว่า 222 ล้านหุ้น มูลค่ากว่าพ้นล้านบาท และยังมีการกระทำแบบเดียวกันในหุ้นอื่นๆ ซึ่งกลต.ไม่สามารถกำกับได้เนื่องจากเป็นการบริหารทรัพย์สินส่วนบุคคล สร้างความกังวลให้นักลงทุน และส่งผลให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องซึ่งเคยมีการรายงานว่ากระทำเป้าหมายการแบบเดียวกันเกิดความผันผวน
+ ปัจจัยเพิ่มเติม-
(-) กกร. คาด GDP ไทยปี 68 ยังโตตำกว่าศักยภาพที่ 2.4-2.9% ขณะที่ตัวเลขการส่งออกจะขยายตัว 1.5-2.5% และเงินเพื่อจะยังอยู่ในระดับต่ำในครอบ 0.8-1.2% ซึ่งยังคงมีภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลัก ด้วยเป้านักท่องเที่ยวที่ 39 ล้านคน
(-) ดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์หมวดที่อยู่อาศัยในไตรมาส 4 ปี 67 อยู่ที่ 76.8 ซึ่งลดลงจากปีก่อน -3.2% จากการลดลงของอุปสงค์ และการโอน
(+) สกพอ. เปิดเผยว่ามีความคืบหน้าในโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบิน โดยจะมีการปรับแก้สัญญา และเร่งนำเข้าที่ประชุมครมเพื่อเห็นชอบ คาดจะลงนามได้ภายในโตรมาส 1 หนุนหุ้นกลุ่มก่อสร้าง
(+) กรมควบคุมโรคเผยทั่วโลกเริ่มคลับมากังวลต่อการเร่งตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกอีกครั้ง และเตรียมเร่งการผลิตวัคซีนป้องกันในไทย เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล และอุปกรณ์การแพทย์
PICKS OF THE DAY
KTC BUY
- เป้าหมาย 51.00 / 52.50 แนวรับ 49.50
- เข้าฤดูกาลจับจ่าย และจะได้ผลดีจาก Easy E-Receipt: ช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายสูง คาดว่าจะทำให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC เพิ่มสูงขึ้น และจะได้ประโยชน์จากโครงการ Easy E-Receipt หนุนโมเมนตั้มต่อเนื่องใน 1Q68
- ผลงานดีกว่ากลุ่มชัดเจน: ทางด้านสินเชื่อบัตรเครดิตถึงแม้สินเชื่อจะหดตัว 0.2% y-y แต่ก็ดีกว่าอุตสาหกรรมที่หดตัว 3.2% y-y และทำให้ KTC มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมาเป็น 2.3% จาก 1.9% ในปีก่อน นอกจากนี้การเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC อยู่ที่ 10% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 2.6% มาก KTC ยังสามารถลดระดับ NPL ลงได้เหลือ 2.21% จากปีก่อนที่ 3.11% ในขณะที่อุตสาหกรรมมี NPL 3.58% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี NPL 3.45%
GULF BUY
- เป้าหมาย 59.50 / 61.50 แนวรับ 57.00
- ราคาสะท้อนปัจจัยลบ : จากกระแสข่าวเกี่ยวกับการลดค่าไฟ รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการชะลอการรับซื้อไฟ ซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนโรงไฟฟ้า SPP ซึ่งอ้างอิงกับค่าไฟ Ft ค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจดิจิทัล โดยเฉพาะ Data Center ที่คาดจะเปิดดำเนินการช่วง 1H68 จะเป็น Sentiment บวกไปตามกระแส AI ในปีนี้ได้ ทางฝ่ายจึงมองว่าราคาที่ปรับตัวลงมาตามกลุ่มเป็นจังหวะในการเข้าทยอยซื้อ
- กำลังการผลิตใหม่ทยอย COD : คาดกำไรหลักใน 4Q67 ยังโต y-y จากกำลังการผลิตใหม่ เช่นเดียวกับปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งในประเทศและต่างประเทศที่จะเข้าสู่ช่วง High Season