SYNEX ส่งสัญญาณสดใส แย้มปิดปีมังกรสุดปัง แย้มผลงานปี 67 ทะลุเป้า 4 หมื่นล้านบาทนิวไฮตามนัด
บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX เตรียมฉลองปิดปีมังกรทอง หลังผลงานปี 67 คาดออกมาสวยตามนัด ทำรายได้ทะลุเป้า 40,000 ล้านบาท จากการเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุก บุกขยายพอร์ตสินค้าให้ก้าวทันทุกเทคโนโลยีครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า นำเข้าสินค้าเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีให้ง่ายขึ้น โดยกลุ่มสินค้าคอมมูนิเคชั่น และคอมเมอร์เชียล เติบโตโดดเด่น เทคโนโลยี AI เข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ด้านกลุ่มเกมมิ่ง ไฮไลท์จากร้าน Nintendo Authorized Store by Synnex ที่เปิดตัวในช่วงปลายปี ได้รับกระแสความนิยม ลูกค้าให้การตอบรับจำนวนมาก
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ดิสทริบิวเตอร์ผู้นำด้านไอทีอีโคซิสเต็ม เปิดเผยว่า ภาพรวมปี 2568 พร้อมเดินหน้าขยายตลาด และขยายพอร์ตสินค้าใหม่ รับเทรนด์เทคโนโลยี AI หนุนตลาดไอทีคึกคัก หลังภาพรวมผลงานปี 2567 มั่นใจเดินหน้าทะลุเป้ารายได้ 40,000 ล้านบาทที่วางไว้ จากกลุ่มสินค้าคอมมูนิเคชั่น ที่เดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุก ทั้งจากสินค้าแบรนด์ Apple ยอดขายเติบโตขึ้น โดยเฉพาะสินค้าไฮไลท์รุ่นเรือธงอย่าง iPhone 16 และกลุ่มสินค้าที่มาพร้อมกับ Apple Intelligence เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ อีกทั้ง ได้รับการตอบรับที่ดีจากสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำอย่าง HONOR Samsung และ Huawei ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI และกลุ่ม Wearable อาทิ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ที่มีการขยายตลาดต่อเนื่อง เพิ่มฐานลูกค้า สนับสนุนรายได้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มคอมเมอร์เชียล ก็มีทิศทางเติบโตจากกลุ่มโปรเจกต์ภาครัฐบาลและเอกชน โดยรายได้บางส่วนของภาครัฐที่ค้างไว้เริ่มกลับมาเป็นบวก จากการส่งมอบงานในหลายโปรเจกต์ ประกอบกับกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ ก็มีการเติบโตจากกลุ่ม Software & Cloud ที่ได้แบรนด์ Autodesk เข้ามาเป็นตัวชูโรงในกลุ่มสินค้าซอฟต์แวร์ ที่มีรายได้แบบต่อเนื่อง (Recurring income)
ด้านกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์ แม้ภาพรวมตลาดยังชะลอตัวจากกำลังซื้อและเศรษฐกิจ แต่ซินเน็คฯ ยังสามารถเติบโตได้จากกลุ่มสินค้าเกมมิ่ง โดยเฉพาะแบรนด์ Nintendo Switch ที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์เปิดตัว Nintendo Authorized Store by Synnex เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ด้วยสินค้าที่ครอบคลุม ซึ่งหลังเปิดตัวได้รับกระแสเป็นอย่างดี สร้างการเติบโตของรายได้ตามแผน
นางสาวสุธิดา กล่าวทิ้งท้าย “ในปี 2567 ที่ผ่านมาเราปรับกลยุทธ์เชิงรุก ขยายตลาดไปในกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตมากขึ้น สอดรับเทรนด์ของผู้บริโภค และก้าวนำให้ทันทุกผลิตภัณฑ์ ที่เราพยายามมองหาและนำเข้าสินค้าเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนให้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี ซึ่งเรามั่นใจว่า รายได้ในปี 2567 จะสามารถทำนิวไฮตามที่เราได้ตั้งเป้าไว้ และเติบโตในปี 2568 ตอกย้ำผู้นำดิสทริบิวเตอร์ผู้นำด้านไอทีอีโคซิสเต็มของประเทศ”