บล.กรุงศรีฯ: 

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index ร่วง 24.75 จุด (-1.78%) ปิดที่ระดับ 1,363 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.68 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 481 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 71 บริษัท) ดัชนีปรับลงจาก 3 ปัจจัยลบ 1)วิตกข่าวทรัมป์เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า, 2) ข่าวการเมือง หลัง กกต. ระบุอดีตนายกฯ ใช้โนบายรัฐขึ้นปราศัยหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. เสี่ยงผิดกฏหมายเลือกตั้ง และ 3) กังวลข่าว กลต.เข้มงวดการซื้อขายบัญชีมาร์จิ้น โดมี Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่ม Oil & Gas (PTTEP), กลุ่มปิโตรฯ (IVL, PTTGC), กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) และ กลุ่มค้าปลีก (CPAXT) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ อิเล็กฯ (DELTA ) 

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

  • PTTEP (-2.79%) ปรับลงในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมันดิบหลังเมื่อคืนราคาพลิกร่วงเป็นวันแรก โดยราคาน้ำมัน WTI ลดลง 93 เซนต์ (-1.25%) ปิดที่ระดับ 73.32$/bbl จากข่าว EIA รายงานสต๊อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 6.3 ล้านบาร์เรล มากกว่า Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5 แสนบาร์เรลเท่านั้น
  • IVL (-9.5%), PTTGC (-6.05%), IRPC (-5.13%) ราคาปิโตรฯ และ ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (Spread) ลดลงต่อเนื่องเสี่ยงกดดันผู้ประกอบการตั้งสำรองด้อยค่าเงินลงทุนเพิ่ม แนวโน้มกำไรเสี่ยงฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมิน โดยล่าสุด Spread HDPE-Naphtha ร่วงสู่ระดับ 302$/ton ต่ำกว่าระดับ Breakeven ของผู้ประกอบการที่ระดับ 400$/ton
  • SCC (-4.05%), SCGP (-3.80%) จาก 2 ปัจจัยลบ คือ ผิดหวังกิจกรรมเศรษฐกิจจีนอ่อนแอสะท้อนผ่านเงินเฟ้อที่ต่ำมากหรือเข้าใกล้ภาวะเงินฝืดเป็นลบกับหุ้น China play โดยกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรฯ และ ธุรกิจ Packaging ของ SCC และ SCGP
  • MINT (-3.53%), CENTEL (-5.38%), ERW (-2.79%), AAV (-4.65%) มีกระแสข่าวโทนลบ กังวลปัญหาความปลอดภัยในไทยอาจกระทบภาคการท่องเที่ยวจากกรณีดาราจีนหายตัวในเขตชายแดนไทยพม่า (แม้จะพบตัวแล้วก็ตาม)
  • DELTA (+0.65%) มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รับข่าว DELTA ไต้หวันรายงานยอดขายประจำเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.7%mom และ 22.2%yoy 
- Advertisement -