รอตัวเลขแรงงานสหรัฐและ Dinner Talk / 1,350-1,370

คาด SET อิงทางลงต่อ : โดยยังไร้ปัจจัยใหม่ในระดับมหภาค และอาจมีแรงขายออกมาบางส่วนเพื่อลดความผันผวนที่อาจตามมา หลังการประกาศตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐในคืนนี้ รวมถึงรอลุ้นความหวังจากงานแสดงวิสัยทัศน์ของอดีตนายกในสัปดาห์หน้า

กลยุทธ์การลงทุน

  1. เก็งงบ 4Q67: AMATA, AP, BBL, BCH, KBANK, KTB, KTC, PR9, TCAP, TTB, DELTA, STA, STGT
  2. เก็งกำไรฝั่ง Short: OR, KKP, PTTGC, IVL, SAWAD, ITC, AWC, JMART, JMT, GPSC
  3. Dividend & REIT: LHHOTEL, IMPACT, LHSC, FTREIT, WHAIR, WHART, INTUCH, SIRI

ตัวเลขแรงงานสหรัฐคืนนี้ คือ Key Driver ในการกำหนดทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย : คาดตลาดจับตาตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐเดือน ธ.ค.67 อย่างใกล้ชิด นำโดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง หลังช่วงก่อนหน้าตลาดให้น้ำหนักมากขึ้นกับการคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ระดับ 4.25-4.5% ท่ามกลางตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่เดินหน้าลดลง ซึ่งชี้นำการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของภาคแรงงานสหรัฐ ตัวเลขที่น่าสนใจคือ ค่าจ้างรายชั่วโมงที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เฟดเปลี่ยนทิศทางนโยบายเนื่องจากค่าจ้างเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะผลักดันอัตราเงินเฟ้อผ่านการใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนมากเป็นอันดับ 3 ของตะกร้าคำนวณ PCE หากตัวเลขดังกล่าวออกมาขยายตัว อาจทำให้เฟดตัดสินใจใช้นโยบายในเชิง Hawkish มากยิ่งขึ้น กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก

จับตาการแสดงวิสัยทัศน์ของอดีตนายก จันทร์หน้า : ตลาดรอจับตาการขึ้นแสดงวิสัยทัศน์อีกครั้งของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. 68 โดยในครั้งนี้ใช้หัวข้อว่า Dinner Talk with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market เบื้องต้นผู้จัดงานชี้ให้เห็นถึงความพยายามที่จะนำวิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯ มาเปลี่ยนทิศทางจากตลาดที่ปรับตัวลงแรง (Bearish Market) เป็นตลาดขาขึ้น (Bullish Market) โดยในอดีตนายทักษิณ เคยผลักดันดัชนีขึ้นกว่า 472 จุดในช่วง 3 ปีแรกของการเข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 1 และได้เคยผลักดันดัชนีหุ้นไทยจาก 450 จุดในช่วงหลังวิกฤติซับโพรม์ (ปี 2551) ไปสู่ระดับสูงสุดที่ 1,070 จุด ในการเข้าดำรงค์ตำแหน่งในสมัยที่ 2 จึงมองหากในครั้งนี้มีทิศทางการผลักดันตลาดหุ้นไทยรูปแบบใหม่จะเป็นบวกต่อ SET Index

ปัจจัยอื่นๆ ที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า : สหรัฐ- PPI-Core PPI (Dec’24)/ CPI+Core CPI (Dec’24)/ Core Retail Sales (Dec’24)/ Philadelphia Fed Manufacturing Index (Jan’25) , ไทย – ตัวเลขนำเข้า-ส่งออกไทยเดือน ธ.ค. 67 / เริ่มมาตรการ Easy E-Receipt/ Dinner Talk with Tony, จีน -GDP ประจำ 4Q24 / Unemployment Rate Dec’24) / Industrial Production (Dec’24), ยูโรโซน-CPI+Core CPI (Dec’24)

+ ปัจจัยเพิ่มเติม –

(-) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเผย ได้มอบนโยบายไปยังสำนักงานประกันสังคม เกี่ยวกับการบริหารเงินลงทุน  โดยให้พิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง และมีความเสี่ยงต่ำ และห้ามลงทุนในหุ้นแบบรายตัวเหมือนในอดีต ทั้งสำหรับการลงทุนในและต่างประเทศ

(+) แหล่งข่าวในจีน เผย PBOC เตรียมออกขายตั๋วเงินคลังมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านหยวน ในฮ่องกงในวันที่ 15 ม.ค. นี้ มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนสกุลเงินหยวนและยกระดับเส้นอัตราผลตอบแทนสกุลเงินหยวนในภูมิภาค

(+) ช่วงวันที่ 9-12 ม.ค.68 นี้ นายกฯ เตรียมเปิดงานแสดงเรือนานาชาติ ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อถึงดูดนักท่องเที่ยว คาดจะสร้างเม็ดเงินเข้าไทยกว่า 1 พันล้านบาท

(+) ThaiBMA มองปี 68 ตลาดแรกของตราสารหนี้ในไทยจะยังไม่แย่นัก คาดจะมีการออกตราสารหนี้ใหม่กว่า 8.5-9 แสนล้านบาท เท่ากับในปี 67

PICKS OF THE DAY

GPSC SHORT

  • เป้าหมาย 31.50 / 32.50 แนวต้าน 34.00
  • ความไม่แน่นอนค่าไฟมีต่อเนื่อง: จากประเด็นกระแสข่าวเกี่ยวกับการลดค่าไฟจากระดับปัจจุบันที่ 4.15 บาทต่อหน่วยเป็น 3.70 บาทต่อหน่วยในปีนี้ โดยแม้จะยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เนื่องจากบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าเป็น ลูกค้าอุตสาหกรรมหรือ IU ที่มีราคาขายไฟอ้างอิงกับค่าไฟ Ft ทำให้มีโอกาสได้รับผลกระทบกำไรหากมีการปรับลดค่าไฟในปีนี้
  • Bond Yield กดดัน: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขึ้นมาระดับ 4.6% ตั้งแต่ต้นปี และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ที่อาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐฯเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อการลดดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะผลกระทบต่อความน่าสนใจของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าในช่วงนี้

WHART BUY

  • เป้าหมาย 10.30 / 10.50 แนวรับ 9.95
  • อัตราการเช่าพื้นที่ปรับตัวดีขึ้น: ใน 3Q67 ในอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของกองทรัสต์ฯอยู่ที่ 84.77% ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจาก 2Q67 และ 1Q67 ซึ่งอยู่ที่ 84.22% และ 83.24% ตามลำดับ ขณะที่ระยะต่อไปยังคงมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ผู้เช่าจะทยอยเข้ามาในช่วง 4Q67 ถึง 2Q68 ซึ่งจะช่วยหนุนให้ อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยปรับตัวขึ้นไปใกล้เคียงระดับในอดีตที่ประมาณ 90%
  • หลบความผันผวนจากปัจจัยทางลบ: เหมาะแก่การลงทุนเพื่อหลบเลี่ยงความผันผวนทางลบจากปัจจัยภายนอกและอัตราดอกเบี้ยไทยที่มีแนวโน้มคงใน 1Q67 เนื่องจาก WHART มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ประมาณ 70% และมีสัดส่วน Freehold ถึง 50% ณ 3Q67 อีกทั้ง ยังมีแรงค้ำด้วย Div. yield ซึ่งตลาดคาดสำหรับปี 68 ที่ 7.7% นอกจากนี้ เป็นหนึ่งในกองทรัสต์ฯมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต
- Advertisement -