บล.กรุงศรีฯ:

KSS Research Update Energy (Neutral; top pick SPRC)

มอง U.S. คว่ำบาตรพลังงานรัสเซียเพิ่มเติม เพื่อลดรายได้ของรัสเซียในการใช้เพื่อทำสงครามฯ คาดส่งผลกระทบต่อ supply น้ำมันดิบโลกตึงตัวขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกต่อกลุ่มต้นน้ำ (PTTEP) และโรงกลั่น (BCP, SPRC, BSRC) ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลลบเป็นปิโตรเคมีและสถานีบริการฯ

Fact; US ภายใต้รัฐบาลโจ ไบเดน คว่ำบาตรพลังงานรัสเซียเพิ่ม โดยคว่ำบาตร บริษัท Gazprom Neft และ Surguneftegas และเรือ 183 ลำที่เชื่อว่าขนส่งน้ำมันดิบรัสเซีย ทั้งนี้อ้างอิงข้อมูล Reuters ปริมาณขนส่งน้ำมันภายใต้เป้าหมายคว่ำบาตรไม่ต่ำกว่าราว 1.5 mbd หรือราว 2% ของ supply โลก 

เรามองผลกระทบจากการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของ U.S. อาจส่งให้ เกิดความกังวล supply น้ำมันดิบตึงตัวในระยะสั้น ส่งให้ราคาน้ำมันดิบ รวมไปถึงค่าการกลั่น ปรับเพิ่ม เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มต้นน้ำ และ โรงกลั่น (ได้ปัจจัยบวก stock gain + ค่าการกลั่น) โดยทุกๆราคาน้ำมันดิบที่เปลี่ยนแปลง 1$/bbl กระทบกำไร PTTEP ราว 2% และสร้าง stock gain ต่อกลุ่มโรงกลั่นราว 2-9%

ทั้งนี้เรายังคงประมาณการราคาน้ำมันดิบ 2025F ที่ 75$/bbl ไม่ได้มองว่าราคาน้ำมันดิบจะกลับขาเป็นสูงต่อเนื่องยาว เพราะ การค้าน้ำมันดิบระหว่างรัสเซียกับลูกค้ารายใหญ่อย่างจีนและอินเดียไม่ได้ใช้ US dollar เป็นหลัก ประกอบกับยังมีทางเลือกในการซื้อกับกลุ่มตะวันออกกลางที่มี spare capacity ไม่ต่ำกว่า 4 mbd รวมถึงยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายจากคุณทรัมป์

สำหรับกลุ่มโรงกลั่นเรามองความเสี่ยงด้าน supply น้ำมันดิบต่อกลุ่มมีจำกัด เพราะ ไม่ได้มีการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยการซื้อน้ำมันดิบส่วนใหญ่มาจากกลุ่มตะวันออกกลาง (ยังมี spare capacity ไม่ต่ำกว่า 4 mbd) และเป็นการซื้อแบบ contract นอกจากนี้ spread Brent-Dubai ที่อาจลดลงจะเป็นบวกต่อผู้นำเข้าน้ำมันดิบจาก Far East อย่าง BCP

กลุ่มปิโตรเคมี และสถานีบริการฯ มีแรงกดดันต่ออัตรากำไร จากต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเร็ว มองผู้ที่ต้นทุนคงที่สูงอย่าง IRPC และมีสัดส่วนการขายน้ำมันดีเซลที่อาจปรับราคาได้ช้า อย่าง PTG จะมีปัจจัยลบระยะสั้นมากกว่ากลุ่ม

- Advertisement -