KGI Thailand จับมือ KGI Taiwan จัดสัมมนา นำทัพนักวิเคราะห์จากไต้หวัน ให้ความรู้และแชร์มุมมองในหัวข้อ “Overview and Analysis of Artificial Intelligence (AI) Industry” เจาะลึกโอกาสการเติบโตของ AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นผลบวกต่อบริษัทในตลาดทุน เห็นทิศทางการเติบโตและวิเคราะห์โอกาส พร้อมสร้างเครือข่ายกับนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญในด้าน AI เพื่อเป็นประโยชน์ในการลงทุนให้เติบโตในระยะยาว
นายจื้อ–หง หลิน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI Thailand จัดงานสัมมนา โดยร่วมมือกับ KGI Securities Company Limited หรือ KGI Taiwan จัดงานสัมมนาแชร์มุมมองจากนักวิเคราะห์ ในหัวข้อ “Overview and Analysis of Artificial Intelligence (AI) Industry” โดยให้ความรู้เกี่ยวกับ Cloud AI/ Data Center – Supply Chain/ Infrastructure และ Edge AI รวมถึงซอฟต์แวร์ประยุกต์ เพื่อให้นักลงทุนขยายขอบเขตความรู้และเข้าใจถึงโอกาสและแนวโน้มของการเติบโตของ AI ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เติบโต และการใช้เทคโนโลยีในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ คาดการณ์ทิศทางตลาด และเพิ่มโอกาสในการลงทุน ณ โรงแรม The Ritz-Carlton Bangkok
โดยได้รับเกียรติจาก Mr. Abraham Leu Head of Research, KGI Taiwan เป็นวิทยากรในงานนี้ ซึ่งงานสัมมนานี้ได้จัดขึ้นแบบ Exclusive เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) และได้เผยมุมมองจากนักวิเคราะห์ถึง สายโซ่อุปทานของ AI ที่แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก Cloud AI (data center) อยู่ในช่วงของการอัพเกรด ซึ่งคาดว่าจะต่อเนื่องไปอีกสองสามปี โดย CSP รายใหญ่ตั้งเป้าเพิ่มงบลงทุน (CAPEX) รวมจาก 2.20 แสนล้านดอลลาร์ฯ (+54% YoY) ในปี 2567F เป็น 2.59 แสนล้านดอลลาร์ฯ (+18% YoY) ในปี 2568F และ เป็น 2.83 แสนล้านดอลลาร์ฯ (+9% YoY) ในปี 2569 ในขณะเดียวกันคาดว่ายอดจัดส่ง AI server จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2568 ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัท hardware ของไต้หวัน (เพราะบริษัทไต้หวันคิดเป็น 70-90% ของยอดประกอบ AI server) ตัวอย่างเช่น Hon Hai และQuanta ซึ่งคาดว่ายอดขาย server น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% YoY ในปี 2568
และช่วงที่สอง คือ Edge AI & application software คาดว่าจะเห็นจากปี 2569 เป็นต้นไป โดยอุปกรณ์ที่รองรับ Edge AI จะช่วยหนุนวัฏจักรการเปลี่ยนเครื่อง notebook และ smartphoneทั้งนี้ ทีม KGI Taiwan คาดว่ายอดจัดส่ง AI PC และ Gen-AI smartphone ในช่วงปี 2567-2570จะโตถึง 48% และ 65% CAGR ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีการใช้งานเทคโนโลยี AI เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าราคาหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งจะพุ่งกระฉูดในช่วงสองสามปีมานี้ แต่ทาง KGI Taiwan มองว่าความเสี่ยงที่จะเกิดฟองสบู่ยังต่ำ เพราะบริษัทรายหลักเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ยังมีผลประกอบการเป็นบวกอยู่
KGI Taiwan Research มองว่าหุ้นเด่นในธีมสายโซ่อุปทาน AI ของไต้หวัน ได้แก่ TSMC (2330 TT) สำหรับการผลิต semiconductor, Media Tek (2454 TT) สำหรับบริการออกแบบ ASIC IC, MPI (6223 TT) และ Winway (6669 TT) สำหรับการทดสอบ interface, Hon Hai (2317 TT) และ Quanta Computer (2382 TT) สำหรับการประกอบ hardware, Delta Electronics (2308 TT), Asia vital component (3017 TT) และ King Slide Works (2059 TT) สำหรับชิ้นส่วน ทั้งนี้ เพื่อลดความซับซ้อนในการลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัว การเข้าลงทุนใน KGI ETF (00952.TW) ที่จดทะเบียนใน Taiwan Stock Exchange นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยกองทุนนี้เน้นหุ้น 50 ตัวที่มีรายได้จาก AI อย่างน้อย 30% ของรายได้รวม
หุ้นในสายโซ่อุปทาน AI มีศักยภาพการเติบโตที่น่าสนใจ แต่นักลงทุนก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยความเสี่ยงสำคัญประกอบด้วย ภัยธรรมชาติ การปิดโรงงานนอกแผน ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น วัตถุดิบขาดแคลน และเงินบาทแข็งค่าขึ้น