บล.กรุงศรีฯ:
KSS Strategist Comment: กรณีข่าวประกันสังคม (SSO) เตรียมพิจารณานโยบายลงทุนใหม่ ผลกระทบแท้จริง “เป็นกลาง” ต่อตลาดหุ้นไทย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบนโยบายไปยังสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เกี่ยวกับการบริหารเงินลงทุนของกองทุนประกันสังคม โดยให้พิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง และมีความเสี่ยงต่ำ ไม่ให้กองทุนไปลงทุนในหุ้นแบบรายตัวเองในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะอาจส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของกองทุนอย่างมากเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
Key Ideas:
- ตลาดตอบสนองเชิงลบจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าคำสั่งดังกล่าวจะทำให้มีแรงขายหุ้นที่กองทุนประกันสังคมถืออยู่ หรืออาจจะไม่มีเม็ดเงินลงทุนก้อนใหม่ (New money) จากกองทุนดังกล่าวเข้ามา (กองทุนประกันสังคมมีมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2.58 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทย 2.67 แสนล้านบาท คิดเป็น 1.63% ของ Market Cap รวมของตลาดหุ้นไทย)
กลยุทธ์ KSS ประเมิน ตลาดวิตกกับประเด็นนี้มากเกินไปและมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะผลกระทบแท้จริง “เป็นกลาง” ต่อตลาดหุ้นไทย
1) ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวไม่ใช่การลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย แต่เป็นการโอนการบริหารจากเดิม(กรณีหุ้นรายตัวโอนไปเช่นกัน) จากกองทุนประกันสังคมเอง ไปลงทุนผ่านการบริหารจัดการของ Asset Management ในประเทศ(บลจ.) (เดิม จะมีการลงทุนเองบางส่วน แต่ในอนาคตจะให้อำนาจการบริหารและการลงทุนเป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุนทั้งหมด (สรุปเป็นแค่การเปลี่ยนมือการบริหารจากประกันสังคมเป็นผู้จัดการกองทุนเท่านั้น)
2) ในช่วงที่ผ่านมา SSO ได้มีการกระจายเม็ดเงินลงทุน ผ่าน บลจ. อยู่แล้ว
3) ประเด็นนี้จึงไม่มีผลกระทบต่อตลาด
4) นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีเงินลงทุนจากกองทุนประกันสังคมเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้นในอนาคต(เพิ่มน้ำหนัก) เนื่องจากในอดีตยามที่ดัชนีที่ร่วงแรง หรือมี Valuation ที่ Discount กองทุนมักเพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นไทย
ในปัจจุบันส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเริ่มมี Valuation ที่น่าสนใจ ปัจจุบัน SET อยู่ใน Value Zone ดัชนี 1360-1345 จุด มี ERP ที่ 4.05%(AVG + 1 S.D. ซึ่งมักเป็นจุดที่ตลาดกลับตัวเชิงพื้นฐาน 4 ใน 5 ครั้ง หลังปี 2011 ยกเว้นวิกฤติ Covid-19
แนะนำเลือกหุ้นสะสม กลุ่ม New S Curve เศรษฐกิจระยะกลาง-ยาว Infra Tech (GULF, INTUCH, ADVANC) หุ้นอิงภาคบริการ (AOT, CPALL, BTS) กลุ่มนำเศรษฐกิจฟื้นตัวนับจากปี 2025F ธนาคาร (KBANK, SCB, KTB)