บล.กสิกรไทย:

หุ้นสร้างบ้าน เป้าหมายสำคัญทั้งหมดในปี 2567 ไม่บรรลุ

  • ยอดขายไตรมาส 4/2567 ฉุดยอดขายปี 2567 YoY เราคาดว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ 10 รายที่เราวิเคราะห์จะรายงานยอดขายไตรมาส 4/2567 รวมที่ 5.29 หมื่นลบ. ลดลง 25% YoY และ 10% QoQ ยอดขายทั้งในกลุ่มบ้านแนวราบและคอนโดฯ จะเติบโตติดลบทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากอุปสงค์ที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอ
  • มาตรการสินเชื่อที่เข้มงวดจากสถาบันการเงิน และการเลื่อนกิจกรรมการเปิดตัวโครงการ ยอดขายปี 2567 ของบริษัทฯ เหล่านี้จึงคาดว่าจะลดลง 13% เป็น 2.296 แสนลบ. หรือคิดเป็น 75% ของเป้าหมายรวมเริ่มแรก
  • คาดกำไรเติบโตติดลบในไตรมาส 4/2567 และปี 2567 จากยอดขายที่ลดลงและการแข่งขันที่สูง ซึ่งกดดันอัตรากำไร รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น เราจึงคาดว่ากำไรของบริษัททั้ง 10 แห่งในไตรมาส 4/2567 จะลดลง 18% YoY แม้ว่าจะเติบโต 10% QoQ จากการขายสินทรัพย์ของ LH แต่หากไม่รวมรายการนี้ กำไรไตรมาส 4/2567 จะลดลง 11% ทำให้กำไรปี 2567 จะลดลง 22% YoY เป็น 2.88 หมื่นลบ. ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2563 (ช่วงโควิด-19)
  • คอนโดฯ เพิ่มขึ้น บ้านแนวราบลดลงในปี 2568 เพื่อรับมือกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว เราเชื่อว่ามูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2568 จะลดลงอย่างมาก YoY แม้ว่ามูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2567 ของทั้ง 10 บริษัท ที่ 2.612 แสนลบ. จะต่ำกว่าที่ตั้งเป้าเริ่มแรกถึง 14% แต่เราคาดจะเห็นมูลค่าโครงการคอนโดฯ ใหม่ในปี 2568 เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่ามูลค่าโครงการแนวราบใหม่จะลดลงอย่างมากก็ตาม เนื่องจากการปรับสมดุลของอุปสงค์และอุปทานของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ อย่างไรก็ตามมูลค่าโครงการแนวราบใหม่จะยังคงสูงกว่าคอนโดฯ
  • คาดกำไรปี 2568 จะทรงตัว แต่ ORI และ SC จะเติบโตโดดเด่น บนความท้าทายในปี 2567 ที่จะดำเนินต่อไปในปี 2568 แม้ฐานกำไรจะอยู่ในระดับต่ำ เราจึงคาดว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้ง 10 รายจะสร้างกำไรปี 2568 ได้เพียงระดับทรงตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยแผนที่มีคอนโดฯ ที่จะสร้างเสร็จใหม่จำนวนมากในปี 2568 เราจึงมองว่า ORI และ SC จะสามารถสร้างการเติบโตของกำไรในระดับสองหลักได้อย่างโดดเด่นในปี 2568
  • แม้แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ที่กลยุทธ์การระบายสินค้าคงเหลือจะยังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีการซื้อขายที่ระดับ -1SDV ของ PER เฉลี่ย 5 ปี และต่ำกว่าระดับ -2SDV ของ PBV เฉลี่ย 5 ปี ซึ่งหมายความว่าตลาดได้สะท้อนแนวโน้มที่อ่อนแอในราคาหุ้นไปพอสมควรแล้ว
  • ในมุมมองของเรา แม้ว่า ORI และ SC จะโดดเด่นในด้านการเติบโตในปี 2568 แต่ผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง SIRI และ AP จะเผชิญความเสี่ยงที่ต่ำกว่าในหลายมิติเมื่อเทียบกับรายอื่น ๆ อีกทั้ง SIRI ยังมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และ AP มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงินให้กับหุ้นเด่นของเรา

- Advertisement -