SA เตรียมออกหุ้นกู้ 3 ชุด ดบ. สูงสุด 7.30% การันตีจ่ายดบ. ครบ ตรงเวลา ใช้เงินตามวัตถุประสงค์ มั่นใจ Backlog แน่น ดันรายได้ปี 68 โต 10-15%

บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด อายุ 1ปี 6 เดือน – 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.90%-7.30% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน พร้อมสินทรัพย์ค้ำประกันมูลค่ากว่า 130% สำหรับชุดที่มีประกัน ฟากซีเอฟโอ “รีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์” ระบุ หุ้นกู้ทุกชุดจ่ายครบตามกำหนดเวลา ยืนยันไม่เคยมีประวัติการผิดนัดชำระคืนหุ้นกู้ มั่นใจ Backlog กว่า 5,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 68 เติบโต 10-15% จากปีก่อน เชื่อมั่นกลยุทธ์ Branded Residence ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งพักอาศัยและการลงทุน

นางสาวรีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน/มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย

หุ้นกู้ชุดที่ 1 : หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2568 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด อัตราผลตอบแทน 7.05% ต่อปี มีอายุ 1 ปี 6 เดือน

หุ้นกู้ชุดที่ 2 : หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2568 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570  ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด อัตราผลตอบแทน 6.90% ต่อปี มีอายุ 2 ปี 6 เดือน

หุ้นกู้ชุดที่ 3 : หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2568 ชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571  ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด อัตราผลตอบแทน 7.30% ต่อปี มีอายุ  3 ปี

สำหรับชุดที่ 2 และ 3 มีสินทรัพย์ค้ำประกันมูลค่ากว่า 130% ของมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายในครั้งนี้ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีหลักประกันคือห้องชุดโครงการไซมิสพระรามเก้า (โครงการ Landmark @MRTA Station) เป็นหลัก

อัตราดอกเบี้ยคงที่ กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท พร้อมเสนอขายให้แก่ นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ โดยคาดว่าจะเปิดจองซื้อได้ในวันที่ 18 – 20 กุมภาพันธ์ 2568

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้ชำระหนี้หุ้นกู้ และบริษัทฯ เตรียมนำเงินเพื่อซื้อทรัพย์สิน ลงทุน หรือเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ได้แก่ โครงการแลนด์มาร์ค แอท เกษตรศาสตร์ ทุ่งสองห้อง สเตชั่น ,โครงการ แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น บี และโครงการมนต์เสน่ห์ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ และใช้เป็นเงินกู้ยืมภายในกลุ่มบริษัท ส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ

นักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ SA สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่าย 11 แห่ง  ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จํากัด , บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด ,บริษัทหลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน) ,บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด ,บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จํากัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) , บริษัท หลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด , บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือสอบถามข้อมูลหุ้นกู้เพิ่มเติมได้ที่ www.siameseasset.co.th/debenture หรือ Call Center 1306

“หุ้นกู้ SA ทุกรุ่นที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถจ่ายอัตราดอกเบี้ยได้ครบถ้วน และตรงตามกำหนดทุกรุ่น ทำให้เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน และมั่นใจว่าจะสามารถชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนดเวลาที่วางไว้ ซึ่งบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญและตระหนักเป็นอย่างดีต่อการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักการการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล โปร่งใส และเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางสาวรีย์ฐิตา กล่าว

สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 10-15% จากปีก่อน โดยประเมินว่า Backlog กว่า 5,000 ล้านบาท โดยคาดการณ์ทยอยรับรู้ในปี 2568 กว่า 2,000 ล้านบาท และมีการชูโครงการ Branded Residence ซึ่งบริษัทฯ พัฒนารูปแบบขึ้นมา เพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการห้องพักให้สามารถเลือกใช้บริการได้เสมือนหนึ่งการเข้าพักในโรงแรม เพื่อตอบสนองความต้องการแก่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อห้องชุดเพื่อพักอาศัยเอง และกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักลงทุนที่ซื้ออสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่า ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัททั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังต้องติดตามการต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯจากภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง อาจช่วยสนับสนุนตลาดและกระตุ้นกำลังซื้อในปีนี้

- Advertisement -