ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เปิดมุมมองเศรษฐกิจโลกครึ่งแรกของปี 2568 “Winds of Change” ชี้เศรษฐกิจโลกเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง แนะเน้นกระจายการลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) จัดงานสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟ “มุมมองเศรษฐกิจโลกช่วงครึ่งแรกของปี 2568” (Market Outlook H1/2025) สำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง นำเสนอถึงปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก ที่จัดทำโดยจูเลียส แบร์ โดยให้มุมมองว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและการลงทุนปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง “Winds of Change” ในหลากหลายด้านโดยเฉพาะด้านนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยังคงมีความท้าท้ายและโอกาสอยู่เสมอ ในครึ่งปีแรก ภาพรวมและกลยุทธ์การลงทุน มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและมีความมั่นคง แนวโน้มดอกเบี้ยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะคงอัตราดอกเบี้ยไปสักระยะ แนะยังคงลงทุนต่อเนื่องและให้ความสำคัญกับการปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ กระจายการลงทุนไปยังหุ้นขนาดกลางที่มีคุณภาพ อาทิ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และธุรกิจการเงิน โดยมุ่งเน้นการรักษาเงินลงทุนในพอร์ตเป็นหลัก โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นายเอเดรียน เมซซินาวเออร์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายคีน ตัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายการแนะนำการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด พร้อมด้วย นายมาร์ค แมทธิว หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ และนายบาซก้าร์ ลักษมิณารายัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ ร่วมงานสัมมนา เมื่อเร็วๆ นี้
นายเอเดรียน เมซซินาวเออร์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นหลายสิ่งอาทิ การได้รับชัยชนะของพรรครีพับลิกัน และการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนมกราคม 2568 นี้ ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 แสดงผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดหุ้นยุโรปถึง 23% และดัชนีหุ้นขนาดเล็กในสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวขึ้น จากมุมมองเศรษฐกิจโลกครึ่งปีแรก 2568 ที่จัดทำขึ้นโดยจูเลียส แบร์ พบว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้เป็นปีแห่ง “Winds of Change” สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะนำมาซึ่งความท้าทาย แต่ก็จะนำโอกาสมาให้ด้วยเช่นกัน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนในด้านนโยบายที่สูงขึ้น ในขณะที่ยุโรปต้องเผชิญกับแรงกดดันในการแก้ไขจุดอ่อนทางเศรษฐกิจ และการที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องเผชิญกับแรงกดดันในการดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ความสามารถของเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้นจำกัดเนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่ง ขณะที่ยุโรปและจีนยังมีโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีก”
“ด้านกลยุทธ์การลงทุนเรายังคงแนะนำให้ลงทุนต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สำหรับตราสารหนี้ เราแนะนำลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนของบริษัทในสหรัฐฯ ที่มีระดับความน่าลงทุนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ต่ำลงมาในระดับ BBB+ ถึง BBB- ที่มีอายุคงเหลือ 3-5 ปี และการลงทุนตราสารหนี้นอกตลาด (Private Credit) ยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจท่ามกลาง Credit Spread ที่แคบ ตราสารหนี้ของบริษัทในสกุลเงินสหรัฐฯ ของประเทศในตลาดเกิดใหม่ที่มีการเลือกเฟ้นและตราสารหนี้ด้อยสิทธิทางการเงินก็มีความน่าสนใจเช่นกัน ด้านตลาดหุ้นยังคงอยู่ในตลาดกระทิง (bull market) ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องใน 2 ปีที่ผ่านมาทำให้มีโอกาสการปรับฐานได้ จะทำให้มีโอกาสในการลงทุน ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดที่เราชื่นชอบ แนะนำให้กระจายการลงทุนไปยังหุ้นขนาดกลางที่มีคุณภาพ อาทิ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และธุรกิจการเงิน นอกจากนี้การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเช่นบริษัทหุ้นนอกตลาดและธุรกิจที่ลงทุนในโครงสร้างและสาธารณูปโภคพื้นฐานนอกตลาดจะช่วยกระจายความเสี่ยงเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้ ทั้งนี้เรายังคงมุ่งมั่นนำเสนอบริการและโซลูชันบริหารความมั่งคั่งที่ครอบคลุมและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับระดับสากล ที่สามารถช่วยวางแผนการเงินและการส่งต่อความมั่งคั่งได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาวะตลาดให้กับกลุ่มลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงในเมืองไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่น “Your Legacy. Our Promise.” ของไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ อย่างแท้จริง” นายเอเดรียน กล่าวทิ้งท้าย