บล.กสิกรไทย:
GPSC : คาด 4Q67 จะเป็นไตรมาสที่ดีสำหรับช่วงโลว์ซีซั่น
- คาดกำไรไตรมาส 4/2567 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ เราคาด GPSC จะรายงานงบการเงินไตรมาส 4/2567 ในวันที่ 17 ก.พ. ด้วยกำไรสุทธิที่ 898 ลบ. เติบโต 88% YoY และ 17% QoQ เราคาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 918 ลบ. เติบโต 169% YoY แต่ลดลง 14% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล โดยหากกำไรไตรมาส 4/2567 เป็นไปตามที่เราคาด กำไรปกติทั้งปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 4.3 พันลบ. เติบโต 28% YoY จากผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก (SPP) ที่ดีขึ้นตามต้นทุนก๊าซที่ลดลง
- ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า SPP และโรงไฟฟ้าไซยะบุรีปรับตัวดีขึ้น กำไรปกติที่เติบโตเชิง YoY น่าจะมาจาก 1) ผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่ดีขึ้นตามอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น (อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของไทยอยู่ที่ 4.18 บาท/ kWh ในไตรมาส 4/2567 เทียบกับ 3.99 บาท/ kWh ในไตรมาส 4/2566) และต้นทุนก๊าซที่ลดลงเล็กน้อย และ 2) ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี (XPCL) จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น แต่การลดลงของกำไรปกติเชิง QoQ สะท้อนถึงแนวโน้มตามฤดูกาลของอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าในไทย (ปริมาณขายไฟฟ้าลดลง) ซึ่งหักล้างผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้า XPCL จากระยะเวลาการปิดซ่อมบำรุงที่น้อยลง (17 วันในไตรมาส 3/2567 ปี 2567)
- ปัญหาต้นทุนถ่านหินไม่สอดคล้องกับรายได้ของโรงไฟฟ้า GHECO-One ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน (GHECO-One) ยังคงเผชิญปัญหาต้นทุนถ่านหินที่ไม่สอดคล้องกับรายได้ โดยคาดว่าจะมีผลกระทบราว 300 ลบ. ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในไตรมาส 3/2567 ทั้งนี้โรงไฟฟ้ามีการปิดดำเนินการอีกครั้ง โดยมีการถูกสั่งการหยุดเดินเครื่องจาก กฟผ. (Reserved shutdown) ตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.2567 ถึงเดือน ก.พ.2568 โดยความไม่สอดคล้องดังกล่าวจะคงอยู่ต่อไปในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 โดยการไม่สอดคล้องกันของราคาถ่านหินอาจลดลงได้เมื่อมีการเดินเครื่องอย่างต่อเนื่อง
- แนวโน้มกำไร กำไรปกติคาดว่าจะอยู่ที่ 900 ลบ. ถึง 1.0 พันลบ. ปรับตัวดีขึ้น YoY โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราค่าไฟฟ้าที่ทรงตัว (4.15 บาท/ kWh ในไตรมาส 1/2568 เทียบกับ 4.18 บาท/ kWh ในไตรมาส 1/2567) และต้นทุนก๊าซที่ลดลง ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรเต็มไตรมาสจากโครงการ Changfang และ Xidao (CFXD) ซึ่งเป็นโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งของไต้หวัน ซึ่งเริ่มดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2567
- แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 51.50 บาท เรายังคงคำแนะนำซื้อ แต่อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและสมมติฐาน โดยมีความเสี่ยงขาลงจากนโยบายค่าไฟล่าสุด