บล.กรุงศรีฯ:
KSS Strategist Comment: INDONESIA BANK Update Bank Negara Indonesia (BBNI) ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่าสูงสุด 905 พันล้านรูเปียห์ เป็นระยะเวลาหนึ่งปี คิดเป็นประมาณ 3.7% ของกำไรที่คาดการณ์ในปี 2568 ซึ่งสะท้อนกระแสการซื้อหุ้นคืนที่เพิ่มขึ้นในตลาดหุ้น ASEAN รวมถึงไทย ท่ามกลางภาวะตลาดที่ผันผวน
FACTS:
- BBNI ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน มูลค่าสูงสุด 905 พันล้านรูเปียห์ คิดเป็น 0.5% ของมูลค่าตลาดปัจจุบัน, 55 basis points ของส่วนของผู้ถือหุ้น, และ 8 basis points ของสินทรัพย์
- วัตถุประสงค์หลัก คือช่วยลดแรงขายในตลาดท่ามกลางภาวะดัชนีผันผวน และเป็นสัญญาณแสดงความเชื่อมั่นในพื้นฐานที่ดีขึ้น
- หุ้นที่ซื้อคืน จะถูกโอนไปใช้สำหรับโครงการ ESOP/ค่าตอบแทนผู้บริหารภายใน 3 ปี โดยต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 มีนาคม 2568
IMPACT:
สัญญาณบวกต่อการซื้อหุ้นคืนในตลาด ASEAN
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กดดันราคาสินทรัพย์ ตลาดหุ้นใน ASEAN พยายามเน้นการเติบโตจากปัจจัยภายใน โดยเฉพาะไทยที่ก่อนหน้านี้ TTB ได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนไปแล้ว
ผลบวกต่อหุ้นขนาดใหญ่ (BIG CAP) ไทยที่ยัง Undervalue
แนวโน้มดังกล่าวอาจกระตุ้นให้บริษัทอื่นๆ พิจารณาโครงการ Shares Buyback เพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและราคายังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
STRATEGY: หุ้นที่มีโอกาสประกาศซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock)
KSS คัดกรองหุ้นที่เข้าเกณฑ์ 4 ปัจจัยหลัก:
- เป็นหุ้น Undervalue ที่ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (PBV < 1.0 เท่า)
- มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อคืนได้ > 5.0% ของ Market Cap
- สภาพคล่องเพียงพอ รองรับการชำระหนี้ครบกำหนดในอีก 1 ปี
- มีกำไรสะสมเพียงพอ รองรับโครงการซื้อหุ้นคืน
หุ้นที่เข้าเกณฑ์และมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งภายใต้ธีม “Treasury Stock Plays” ได้แก่
- กลุ่มธนาคาร – แนวโน้มลงทุนรัฐ-เอกชนเร่งตัว + น้ำหนักในดัชนีเพิ่มขึ้นหลังเริ่มมีแนวคิดจำกัดน้ำหนักหุ้นในดัชนีหลักของไทย
- SCB (TP 120) | KBANK (TP 178) | KTB (TP 24) | BBL (TP 160)
- กลุ่มพลังงาน
- PTT (TP 37.5) | BCP (TP 46.5) | TOP (TP 33)
- กลุ่มปิโตรเคมี
- PTTGC (TP 30)