จับตาสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯ / 1,290-1,310

SET แกว่งตัวออกข้าง: แรงกดด้นในระยะสั้นจากความกังวลสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง หากแต่มีแรงหนุนจาก Valuation ของ SET Index ที่น่าจูงใจสะท้อนจาก Forward P/E

กลยุทธ์การลงทุน

  1. เก็งงบ 4Q67: ADVANC, BA, MINT, MTC, PIN, SAWAD, SC, WHA
  2. Value stock ในเชิง Quant: AAI, AAV, PRM, PT, ROJNA
  3. Dividend + REITs: FTREIT, INTUCH, SCB, TISCO, WHART
  4. Selective: KBANK, KTB, KTC, TTB
  5. Short-sell: HANA, KCE, OSP, PTTGC, SCC, SCGP, SPALI

จีนไม่นิ่งเฉย ตอบโต้สหรัฐฯกลับ: คาด SET Index จะเผชิญกับแรงกดดันจากความกังวลสงครามการค้าระหว่าง 2 เศรษฐกิจขนาดใหญ่ หลังวานนี้จีนประกาศว่า 1) จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและ LNG จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภทในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.68 2) จีนจะเริ่มสอบสวน Google กรณีต้องสงสัยละเมิดกฎหมาย ต่อต้านการผูกขาดทางการค้า และ 3) จีนขึ้นบัญชี PVH Corp. และ Illumina, Inc. ของสหรัฐฯในฐานะองค์กรที่ไม่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ การประกาศข้างต้นเกิดขึ้นหลังจากที่ปธน.สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% และเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวานนี้ ซึ่งประเด็นข้างต้นส่งผลให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมีแนวโน้มลดสถานะเสี่ยงและเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สอดรับกับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น 0.65% ปิดที่ $2,875.80 ต่อออนซ์ นอกจากนี้ คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 0.63% ปิดที่ $72.7 ต่อบาร์เรล หลังได้รับแรงกดดันจากการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี สงครามการค้าข้างต้น อาจเป็นปัจจัยกดดันเพียงในระยะสั้น หลังโฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับ Fox Business Network ว่าปธน.จีนได้ติดต่อมายังปธน.ทรัมป์ เพื่อจะพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร โดยผู้น้ำทั้งสองประเทศอาจจะเริ่มเจรจากันในไม่ช้านี้

Valuation ของ SET Index น่าสนใจ: มองทางลงจำกัด จาก Valuation ของ SET Index ที่น่าจูงใจ สอดรับกับ Forward P/E ของปี 68 ซึ่งอยู่ที่ 13.59x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตนับแต่ปี 61 ที่ 15.15x และระดับ -1S.D. ที่ 13.63x ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็นโอกาสในการเก็บหุ้นที่มีพื้นฐานดีสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อีกทั้ง คาด SET Index จะมีแรงหนุนจากการเก็งงบ 4Q67

ติดตาม PMI บริการเศรษฐกิจหลัก: ติดตามการเผย PMI ภาคบริการเดือนม.ค.68 ของจีน ยูโรโซน และสหรัฐฯ ในวันนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเชิงบวก หลังตลาดคาดต่างยืนเหนือระดับ 50 ซึ่งจะเป็นการบ่งชี้ถึงการขยายตัวของกิจกรรมในภาคบริการ

+ ปัจจัยเพิ่มเติม –

(+) กระทรวงท่องเที่ยวฯ เผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-2 ค.พ.68 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทั้งสิ้น 3.97 ล้านคน (+21% y-y) สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนัคท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1.95 แสนล้านบาท

(+) ครม.อนุมัติให้ดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ครอบวงเงิน 3.41 แสนล้านบาท ระยะเวลาดำเนินคาร 8 ปี

(+) ครม.เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.ศูนย์คลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน เพื่อผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน เพื่อเป็นผู้เล่นสำคัญทางเศรษฐกิจในเวทีโลก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

(-) Morgan Stanley คาดหุ้นกลุ่มเทคฯในตลาดเอเชียมีแนวโน้มร่วงลงประมาณ 20%ในระยะเวลาอันใกล้นี้ หากมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าชิปคอมฯ และความตึงเครียดด้านการค้ากลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ ผลการสำรวจในปัจจุบันบ่งชี้ว่าการคาดการณ์เที่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเทคฯ อยู่ในระดับที่สูงเกินไป

PICKS OF THE DAY

WHA BUY

  • เป้าหมาย 4.90 / 5.00 แนวรับ 4.70
  • คาด 4Q67 กำไรสูง ดันทั้งปีโต y-y: คาด 4Q67 กำไร 1,587 ลบ. -34.3% y-y +245.7%q-q จากการโอนที่ดินในส่วนของ WHA เพิ่มมากขึ้น มี GPM-นิคม สูงขึ้น และมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า WHAIR เข้ามาเสริม ส่วน WHAUP คาดกลับมามีกำไรจากค่าเงิน ช่วยให้รายได้อื่นๆของ WHA กลับมาเป็นบวก หากเทียบกับในช่วง y-y (4Q66) และ q-q (3Q67) ที่ติดลบ ซึ่งจะทำให้กำไรทั้งปี 67 อยู่ที่ 4,700 ลบ. +6.2%y-y
  • ปี 68 โอนที่ดินเพิ่มขึ้นมาก: แนวโน้มปี 68 ยังดี โอนที่ดินเพิ่มขึ้นมากและมีราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น จากลูกค้ากลุ่มธุรกิจ Data center ที่เซ็นสัญญาในปีที่ผ่านมา

MINT BUY

  • เป้าหมาย 26.00 / 26.50 แนวรับ 24.80
  • คาดกำไรปี 2567 โต y-y : ทางฝ่ายคาด กำไรปี 2567 โต y-y แรงหนุนจาก รายได้ธุรกิจโรงแรมเป็นหลักตามอุปสงค์การท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโต ต่อเนื่อง รวมถึงคาดรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเร่งตัวขึ้นหลังจากการอัพเกรดห้องพักให้ Luxury มากยิ่งขึ้น
  • คาด 1Q68 รายได้โรงแรมสดใส : รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสมวันที่ 1 ม.ค.- 26 ม.ค 68 รวม 3.02 ล้านคน สำหรับรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ 151 ล้านบาท ทางฝ่ายยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ MINT จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
- Advertisement -