KS Daily View 11.02.2025 >>> SET รับแรงกดดัน LTF ติดตามมาตรการผยุงตลาดหุ้นไทย มองกรอบ SET วันนี้ 1,260-1,280 จุด หุ้นแนะนำ AMATA, CRC
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : ประเมินดัชนีSET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,260-1,280 จุด โดยตลาดในประเทศยังคงถูกกดดันจากแรงขาย LTF ที่ในเดือน มกราคมมีการขายออกมาแล้วกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท และในเดือนกุมพาพันธ์ MTD มีการขายกองทุน LTF ออกเพิ่มเติมอีกราว 3 พันล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบไปยังหุ้นโดยเฉพาะตัวกลางและตัวเล็กที่มีการลดลงของราคาค่อนข้างมากเนื่องจากสภาพคล่องมีการลดลงเช่นกัน ทำให้ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตรียมเข้าพบรมว.คลัง เพื่อรอหารือแผนกระตุ้นระยะสั้นช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย โดยมีแนวโน้มที่จะเสนอให้ กองทุนThaiESG มีนโยบายลงทุนเฉพาะหุ้นไทยทั้งหมดเหมือนกอง LTF ที่ผ่านมา เพื่อช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้เราคาดกลุ่มที่ยังคงแข็งแกร่งกว่าตลาดยังเป็นกลุ่มเดิมอย่างBanking และ Telecom ซึ่งงบการเงินของADVANC ออกมาดีกว่าที่คาดเล็กน้อยเป็น sentiment เชิงบวกให้กับ TRUE เช่นกัน แนวโน้มหุ้นที่มีกำไรใน 4Q24 แข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโตต่อในปี 2025 จะยังสามารถoutperform ตลาดได้ในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำลงทุนในหุ้น AMATA และ CRC
ข่าวและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน
1.FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 91.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.และมิ.ย. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ค. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568
2.ฌอง โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ประกาศว่า สหภาพยุโรปจะดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% จากทุกประเทศ
3.ตลาดหลักทรัพย์พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมเข้าพบรมว.คลัง เพื่อรอหารือแผนกระตุ้นระยะสั้นช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย ซึ่งทางกระทรวงคลังได้สอบถามถึงเงินคงค้างกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ได้เสนอกระทรวงคลังให้ปรับเงื่อนไขกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) ให้มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยทั้งหมด เหมือนกองทุน LTF ในอดีต
4.TSMCผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ยอดขายในไตรมาส 1/2568 (ม.ค.-มี.ค.) จะอยู่ในกรอบล่างของช่วงตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวหลายครั้งส่งผลกระทบต่อการผลิตในเดือนม.ค. รายได้เดือนม.ค.โต 36% แตะ 2.933 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน เทียบกับไตรมาสก่อน (ต.ค.-ธ.ค.) ที่โต 38.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายในไตรมาส 1/2568 จะโตถึง 41% TSMC ยังคงตัวเลขคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 1/2568 ไว้ที่ 57%-59% และยังคงเป้าทั้งปีไว้ที่ระดับเดิม
5.Reuters รายงาน OpenAI มีแผนที่จะลดการพึ่งพาชิปจาก Nvidia โดยมีการรายงานว่า OpenAI กำลังออกแบบชิปรุ่นแรกสำเร็จภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าและมีแผนที่จะส่งให้โรงงานของ TSMC ในการผลิตรุ่นแรก โดยจะใช้เทคโนโลยีขนาด 3 นาโนเมตรในการผลิตคาดจะสามารถ mass production ได้ในปี 2026 หากการทำtape-outไม่มีปัญหา
Daily pick
AMATA: ราคาพื้นฐานที่ 34.00 บาท
เราแนะนำเก็งกำไร AMATA จากการขายที่ดินใน 4Q24 ที่ออกมาอยู่ที่ 1 พันไร่เพิ่มขึ้น 55%YoY และในปี 2024 ขายที่ดินได้ทั้งหมด 3 พันไร่เพิ่มขึ้นราว 63% จากปี มากที่สุดเป็นประวัติการณ์รองจากช่วงน้ำท่วมปี 2012 คาดกำไรใน 4Q24 แข็งแกร่งที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% YoY อีกทั้งเราคาด Backlog สิ้น 4Q24 อยู่ในระดับสูงที่ 2.1 หมื่นล้านบาท โดย AMATA เปิดเผย Demand ยังคงแข็งแกร่งจากการพูดคุยกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องจากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีนและไต้หวัน เราคาดกำไรในปี 2025-26 ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น
CRC: ราคาพื้นฐาน 43.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่องบการเงินสำหรับ 4Q24 คาดมีกำไรปกติเติบโตราว 11.5% YoY และ 67.2% QoQ มาจากการเติบโตของรายได้ราว 6.4% YoY สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของ SSSG ในประเทศไทยที่มีการเพิ่มขึ้นราว 5% จากการเข้าสู่ High season ใน 4Q24 และรายได้จากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของ operation ใน อิตาลีและเวียดนามมีการลดลงราว -3% ถึง -5% และ -6% ถึง -8% ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตามเราคาดSSSG ในเดือน มกราคม ปีนี้ CRC สามารถเติบโตได้ราว +6-7% โดยหลักมาจากช่วงวันตรุษจีนของที่ประเทศไทยและเวียดนามในขณะที่กลุ่มสินค้าแฟชั่นเองก็ยังเป็นบวกได้เช่นกัน ส่งผลให้เราคาด CRC มีโอกาสทำกำไรเติบโตในปี 2025 ราว 11.5% โดยมี Forward PE’25 อยู่ที่ 20 เท่า
รานงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันอังคาร ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก (NFIB Small Business Optimism Index) ในสหรัฐเดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 104.7 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 105.1 จุด และปิดท้ายด้วยคำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐในรายงานนโยบายการเงินครึ่งปีต่อรัฐสภา โดยจะมีการประชุมจากวันอังคารถึงวันพุธ
วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินสหรัฐฯ (US CPI)เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.90% YoY ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ Core CPI ตลาดคาดที่ +3.1% YoY ลดลงจาก +3.2% YoY ในเดือนก่อนหน้า ในส่วนของตลาดในประเทศไทยหยุดทำการเนื่องจากเป็นวันมาฆบูชา
วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (US PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.2% MoM ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าและดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% YoY ในส่วนของสหราชอาณาจักร มีการรายงาน GDP ในไตรมาส 4 ปี 2024 เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 0.9% YoY ปิดท้ายจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.19 แสนตำแหน่ง
วันศุกร์ ติดตามดัชนียอดค้าปลีกของสหรัฐ (US Retail sales) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.0% MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM และติดตามการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไตรมาสที่สี่ปี 2024 ครั้งที่สองของโซนยุโรปตลาดคาดการณ์ที่ +0.9%YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
