บล.กรุงศรีฯ:

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index ปรับลง 12.01 จุด (-0.94%) ปิดที่ระดับ 1,272 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 229 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 247 บริษัท) ดัชนีปรับลงจากแรงขายหุ้น Big Cap ที่มีปัจจัยลบเฉพาะตัว โดยมี Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มขนส่ง (AOT), กลุ่ม อิเล็กฯ (DELTA) และ กลุ่มธนาคาร (SCB, KTB, KBANK) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้นพยุงดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, TOP, BCP) และโรงไฟฟ้า (GPSC, BGRIM)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

AOT (-13.76%) ผิดหวังงบ 1Q25 ต่ำคาด โดยมีกำไรสุทธิ 5,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%qoq และ 17%yoy แต่ต่ำกว่าที่เราและ Consensus คาดไว้ที่ 5,600 -6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ในช่วงบ่ายมี Analyst meeting โทนเป็นลบ รายได้จากส่วนแบ่งผลประโยชน์มี downside เนื่องลูกค้าบางรายเริ่มมีปัญหาสภาพคล่อง 

SCB (-3.21%), KTB (-2.15%), BBL (-0.33%) นักลงทุนเทขายกังวลปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ (หนี้เสีย) หลังมีข่าวลูกค้าบางรายของ AOT มีปัญหาสภาพคล่องจนต้องขอเลื่อนหรือผ่อนชำระค่าเช่า

DELTA (-2.16%) นักลงทุนลดความเสี่ยงก่อน DELTA ประกาศงบ 4Q24 ในเย็นวันนี้ เบื้องต้นตลาดคาดมีกำไรสุทธิ 5.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 35%yoy แต่หดตัว 7%qoq (หดตัว qoq มองผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว)

TOP (+1.23%), BCP (+1.33%), SPRC (+2.41%) ปรับขึ้นเด่นวันนี้มีจิตวิทยาบวกจากค่าการกลั่นทยอยฟื้นตัว โดยวานนี้ค่าการกลั่น ณ โรงกลั่น สิงคโปร์เร่งตัวขึ้นแตะระดับ 4.31$/bbl เพิ่มขึ้น 5.9%dod และนับเป็นการปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง

GPSC (+3.77%), BGRIM (+4.0%) เป็นกลุ่มราคาหุ้นโซนต่ำ ราคามี Technical rebound จากที่ร่วงแรงในช่วงก่อนหน้า ผสานกับวันนี้มีจิตวิทยาบวก US Bond yield 10 ปี ร่วงจาก 4.6% เป็น 4.54%

MINT (+1.89%) ประกาศงบ 4Q24 มีกำไรสุทธิ 3,632 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2,331%qoq และ 269%yoy และมากกว่าที่เราคาดไว้ 27.6%yoy นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 38 บาท

TRUE (+2.40%) เราเลือกเป็น Top Pick วันนี้ ดักเก็งกำไรก่อนประกาศงบสัปดาห์หน้า คาดมีกำไรหลักแตะ 3.8 พันล้านบาทใน 4Q24F โดยพลิกกลับจากขาดทุนหลัก 1 พันล้านบาทใน 4Q23 และเพิ่มขึ้น 32% qoq 

- Advertisement -