บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

(-) DELTA แม้ไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติ 4Q24 ก็ต่ำกว่าคาด ปรับเป้าลงเป็น 72 บาท

กำไรสุทธิ 4Q24 เหลือเพียง 2.15 พันลบ. (-64% q-q, -54% y-y) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดถึง 60% (เราคาดไว้ 5.4 พันลบ.) โดยมีรายการพิเศษจำนวนมาก ตามที่ DELTA ชี้แจง รวม 3 พันลบ. ได้แก่

1) FX loss ในต้นทุนขาย USD13.3m (หรือ 452 ลบ)

2) FX loss จากการ hedging และการเปลี่ยนแปลงใน balance sheet 329 ลบ.

3) รายได้ชดเชยจากการผิดสัญญาของลูกค้า 436 ลบ.

4) การให้ Rebate (การส่งเสริมการขาย) กับลูกค้า data center ราว USD6.8m (231 ลบ.)

5) การตั้งสำรอง (Warranty provision) เพราะเกิด defect ในงาน Magnetics solution ราว USD16.2m (551 ลบ.)

6) การกลับรายการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือ 290 ลบ.

7) ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมาย 1,008 ลบ.

8) ค่าใช้จ่าย R&D ที่สูงกว่าไตรมาสอื่น จาก project ของฝั่งเยอรมณี

9) มีการปรับเพิ่มอัตราการจ่ายค่า Technical service fees (ให้กับ Delta Taiwan) สำหรับสินค้า Non-AI และมีการเก็บย้อนหลัง USD26m (884 ลบ.)

10) ถูกอินเดียเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม INR400m (156 ลบ.)

11) ค่าใช้จ่ายชดเชยให้กับคู่ค้าตามที่มีข้อพิพาทกันตั้งแต่ในอดีต แต่มารับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ 141 ลบ. 

หากบวกกลับตามที่ DELTA ให้ข้อมูลทั้งหมด จะได้กำไรปกติราว 5.2 พันลบ.

  • แต่บางรายการ เราไม่ได้มองเป็น One time เช่น การส่งเสริมการขายที่ให้กับลูกค้า, ค่า R&D, ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมาย และการตั้งสำรองหรือกลับรายการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือที่ DELTA รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายสม่ำเสมออยู่แล้ว ดังนั้น เราจึงประเมินกำไรปกติ 4Q24 อยู่ที่ 4.2 พันลบ. (-32% q-q, -6% y-y) ถือเป็นกำไรที่ไม่สดใสนัก
  • รายได้รวมทั้งสกุล USD และบาท ปรับลด q-q ตามฤดูกาล และมาจากรายได้ EV ที่ลดลง แม้ AI จะโตได้ แต่ไม่สามารถหักล้างกลุ่มอื่นที่ลดลงได้ทั้งหมด เบื้องต้นคาดสัดส่วนรายได้ AI อาจขยับมาแตะ 10% ได้ ในแง่ y-y เติบโตได้ทุกกลุ่ม ยกเว้น EV ที่ขายใน US & Asia ปรับลง -3% q-q, -27% y-y
  • อัตรากำไรขั้นต้นที่รายงานเหลือ 22.5% แต่หากบวกกลับรายการพิเศษ จะมีอัตรากำไรขั้นต้นแท้จริงที่ 24.9% ลดจาก 27.6% ใน 3Q24 จากรายได้ที่ลดลง โดยกลุ่ม EV มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงมากสุดเหลือ 11.7% ต่ำสุดรอบ 7 ไตรมาส และกลุ่ม Fan ลดลงมากเช่นกัน
  • ค่าใช้จ่ายเร่งตัวขึ้นต่อ ทั้ง R&D และมี Technical service fees สูงถึง 3.47 พันลบ. (8.3% ของรายได้รวม) หากไม่รวมค่า fees ที่ถูกเก็บย้อนหลัง 884 ลบ. พบว่าค่า fees ที่จ่ายให้ Delta Taiwan ใน 4Q24 อยู่ที่ 2.59 พันลบ. คิดเป็น 6.2% ของรายได้รวม ทำให้ SG&A to sales สูงขึ้นเป็น 14.8% สูงสุดในรอบ 14 ไตรมาส

จบปี 2024 มีกำไรสุทธิ 1.89 หมื่นลบ. (+2.8% y-y) ส่วนกำไรปกติอยู่ที่ 2.01 หมื่นลบ. (+17% y-y)

  • แม้ AI จะยังมีแนวโน้มที่ดี แต่สัญญาณการชะลอตัวของกลุ่ม EV ดูน่าเป็นห่วงกว่าที่เคยคาด ขณะที่ค่า fees ที่ต้องจ่ายให้กับ Delta Taiwan เร่งขึ้นมากกว่าการเติบโตของรายได้ ทำให้สัดส่วนค่า fees ต่อรายได้รวมปี 2024 สูงขึ้นเป็น 6.2% จาก 3.8% ในปี 2023 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก หลังถูกปรับอัตราจ่ายเพิ่มขึ้นใน 4Q24 โดยบริษัทให้วิวว่าถูกขยับขึ้นเป็น 10% ของรายได้ที่มาจาก Taiwan กอปรกับจะเริ่มเผชิญอัตราภาษี GMT ที่สูงขึ้นเป็น 15% ตั้งแต่ 1Q25 จาก 2.4% ในปี 2024
  • เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2025-27 ลง 19-30% เป็นการเติบโต 3.6%/14.1%/13.8% และปรับลด PE ลงเป็น 45x เท่ากับค่าเฉลี่ย 5 ปี เพื่อสะท้อนการเติบโตของกำไรที่ลดลงกลับสู่ระดับปกติปีละ 10-15% และภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม AI ที่รุนแรงขึ้น ทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI ถูก De-rate valuation จึงปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 72 บาท (คิดเป็น PBV 1x) ขณะที่ประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2024 หุ้นละ 0.46 บาท คิดเป็น Yield เพียง 0.4% แนะนำขาย
- Advertisement -