บล.กสิกรไทย:
กลุ่มยาง : อีกปีแห่งการเติบโต
- คาดว่ากำไรไตรมาส 4/2567 จะแข็งแกร่ง เราคาดว่ากำไรรวมของกลุ่มการเกษตร (ยาง) จะอยู่ที่ 1.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 5.9 เท่า YoY และ 19% QoQ โดยกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น YoY และ QoQ มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณการขาย และ ASP ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนมาจากข้อมูลการส่งออกยางธรรมชาติของไทย
- แนวโน้มอุปสงค์สดใสในปี 2568 เราคาดว่าแนวโน้มเชิงบวกในปี 2568 สำหรับกลุ่มนี้ จะได้รับแรงหนุนมาจาก อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ โดยเราคาดว่าการบริโภคทั่วโลกจะดีขึ้น จากนโยบายที่ผ่อนคลายของธนาคารกลาง และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน
- คาดว่าราคายางจะสูง เรามองว่าผู้ผลิตยางธรรมชาติจะได้รับประโยชน์จาก สภาวะราคายางที่อยู่ในระดับสูงในปี 2568 โดยเราคาดว่าราคาเฉลี่ยยาง SICOM TSR20 จะทรงตัวในระดับสูงที่ 1.8 ดอลลาร์สหรัฐฯ/กก. จากภาวะอุปทานตึงตัว ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก 1) การขยายพื้นที่ปลูกยางใหม่ที่ชะลอลงในประเทศผู้ผลิตหลัก เช่น ไทย และอินโดนีเซีย 2) ปัญหาขาดแคลนแรงงานในอินโดนีเซีย และ 3) โรคทางใบในต้นยางพารา ที่จะส่งผลให้ผลผลิตยางธรรมชาติลดลง
- คาดว่า GPM จะเพิ่มขึ้น เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของธุรกิจยางธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นในปี 2568 จาก 1) ราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้นตามราคายาง SICOM TSR20 และ 2) การเพิ่มสัดส่วนการขายยางธรรมชาติที่เป็นไปตามข้อกำหนด EUDR ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่ายางเกรดมาตรฐาน ทั้งนี้ สหภาพยุโรปได้เลื่อนการบังคับใช้กฎระเบียบ EUDR จากสิ้นปี 2567 ไปเป็นสิ้นปี 2568 ซึ่งเราคาดว่าบริษัทฯ ที่มีความพร้อมจะสามารถเพิ่มราคาขายได้ เนื่องจากคาดว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนยางธรรมชาติที่เป็นไปตามมาตรฐาน EUDR ราว 1 ล้านตันทั่วโลก
- อุตสาหกรรมถุงมือยางปรับตัวดีขึ้น เราคาดว่าความต้องการถุงมือยางทั่วโลกจะฟื้นตัวในปี 2568 จากสต็อกสินค้าส่วนเกินที่มีการสะสมในช่วงโควิด-19 หมดลง นอกจากนี้ การปรับขึ้นภาษีนำเข้าถุงมือยางทางการแพทย์จากจีนของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ 1) มีความต้องการถุงมือจากผู้ผลิตอาเซียนมากขึ้น และ 2) ราคาถุงมือยางในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น
- ปรับเพิ่มกำไรปกติของกลุ่มธุรกิจปี 2567/68/69 ขึ้น 7%/3%/4% เพื่อสะท้อนถึง 1) สมมติฐานปริมาณการขายยางธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น 3% ในปี 2567 และ 2) สมมติฐาน GPM ที่สูงขึ้นสำหรับปี 2568-69 เนื่องจากเราใช้สมมติฐานเงินบาทที่อ่อนลง
- เรายังคงมุมมอง “เชิงบวก” ต่อกลุ่มธุรกิจนี้ โดยเราคาดว่า
1) กำไรของกลุ่มธุรกิจจะเติบโตที่ 35% YoY ในปี 2568
2) ยอดอุปสงค์/อุปทาน และราคาขายที่น่าพอใจ
3) มูลค่าหุ้นของกลุ่มยางที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่เกือบ 1SD ต่ำกว่าระดับเฉลี่ย
- หุ้นเด่น STGT แนะนำ ซื้อ TP 12.70 บาท