KS Daily View 18.02.2025 >>> DELTA AOT กดดัน SET แต่ไส้ในตลาดมีหุ้นปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี มองกรอบ SET วันนี้ 1,250 – 1,280 จุด หุ้นแนะนำ MINT, MTC

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี สำหรับตลาดหุ้นเอเชียเหนือวานนี้ภาพรวมเป็นบวกเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นจีน (A-Shares) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ H-Shares ปรับตัวขึ้น ก่อนที่จะย่อตัวลงมาปิดลบโดยมีความผันผวนสูงตลอดทั้งวัน ท่ามกลางการประชุมระหว่างผู้นำจีนและนักธุรกิจแนวหน้า

ตลาดหุ้นไทยเปิด Gap Down ลงเกือบ 40 จุดในช่วงเช้า ก่อนจะค่อยๆ รีบาวด์ขึ้นมาปิดลบราว 16 จุด ปิดที่ 1,272.72 จุด ประเด็นกดดันหลักมาจากภายในประเทศจาก AOT ที่ปรับตัวลง 8% กดดันดัชนีราว 4 จุด และ DELTA ปรับตัวลง 23% กดดันดัชนีราว 26 จุด นอกจากนี้ตัวเลข GDP 4Q24 ออกมาที่ 3.2%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.8% YoY และ 0.4% QoQ ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.5% QoQ

อย่างไรก็ตาม Market Breadth วานนี้ค่อนข้างดีโดยมีหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างกระจายในทุกกลุ่มใหญ่ นำโดยธนาคาร พลังงาน ค้าปลีก โรงพยาบาล และอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่กลุ่มสื่อสารปรับตัวลงเล็กน้อย เรามอง SET ที่ปรับตัวลงมาแล้ว 10% ตั้งแต่ต้นปีซึ่งรับปัจจัยลบไปมาก  การมีแผน LTF ชุดใหม่และโครงการ Jump+ น่าจะเป็นแรงหนุนช่วยจำกัด Downside ได้บ้าง เราประเมินแนวรับบริเวณ 1,250 น่าจะแข็งแรงพอสมควร มองกรอบวันนี้ที่ 1,250 – 1,280 หุ้นแนะนำ MINT, MTC

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.    เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4 ปี 2024 โดยGDP ขยายตัว 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.8% ส่งผลให้การเติบโตทั้งปี 2024 อยู่ที่ 2.5% ปัจจัยหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวช้า และการลงทุนที่ยังหดตัวต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยบวกจากการส่งออกที่ขยายตัว 11.5% และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง สำหรับปี 2025 NESDC ยังคงคาดการณ์ GDP ที่ 2.3-3.3% แต่มีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดการเงินโลก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง

2.   รัฐบาลไทยได้ออกร่างกฎหมายคาสิโนฉบับใหม่ที่เข้มงวดขึ้น โดยกำหนดให้พื้นที่คาสิโนต้องไม่เกิน 10% ของพื้นที่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทั้งหมด และมีข้อกำหนดพิเศษสำหรับคนไทยที่ต้องการเล่นการพนัน ซึ่งต้องมีเงินฝากประจำอย่างน้อย 50 ล้านบาทต่อเนื่อง 6 เดือน ขณะที่ชาวต่างชาติเพียงต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าผ่านกฎหมายนี้ภายในปีนี้เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเพิ่มรายได้ภาษี แม้จะมีเสียงคัดค้านจากประชาชนมากขึ้น โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่ากว่าครึ่งไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้

3.    กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคใต้หลายโครงการ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา ประกอบด้วยโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในภาคใต้ 3 เส้นทาง มูลค่ารวมกว่า 104,464 ล้านบาท โครงการมอเตอร์เวย์ M84 เชื่อมหาดใหญ่-ชายแดนไทย-มาเลเซีย วงเงิน 40,787 ล้านบาท และแผนขยายสนามบินหาดใหญ่เพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ 10.5 ล้านคนต่อปี รวมถึงโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา มูลค่า 4,825 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมให้เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจในภาคใต้

4.    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้จัดประชุมร่วมกับผู้นำภาคเอกชนชั้นนำของจีน รวมถึง แจ็ค หม่า ผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่แสดงถึงการสนับสนุนภาคเอกชนที่เคยถูกกดดันมาก่อนหน้านี้ โดยในการประชุมมีผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำเข้าร่วมมากมาย เช่น เหล่ยจุน จากXiaomi, หวัง ซิง จาก Meituan และเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งHuawei การประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีที่นุ่มนวลขึ้นของรัฐบาลจีนต่อภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

5.   OPEC+ กำลังพิจารณาเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรายเดือนที่มีกำหนดเริ่มในเดือนเมษายน 2025 แม้จะมีแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ให้ลดราคาน้ำมัน โดยกลุ่มมองว่าตลาดน้ำมันโลกยังคงเปราะบางเกินกว่าที่จะฟื้นฟูการผลิตในขณะนี้ หากมีการเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน จะถือเป็นการเลื่อนครั้งที่ 4 ของพันธมิตรที่นำโดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ทั้งนี้ แม้ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ยังถือว่าต่ำเกินไปสำหรับสมาชิก OPEC หลายประเทศในการครอบคลุมค่าใช้จ่ายของรัฐบาล

Daily pick

MINT : ราคาพื้นฐาน 43.02 บาท

เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ MINT หลังการประชุมนักวิเคราะห์ โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 6-8% CAGR และกำไรที่ 15-20% CAGR ในช่วงปี 2568-2570 โดยจะเน้นการเติบโตแบบ Asset-light ที่มุ่งเน้นการเก็บค่าบริหารซึ่งให้อัตรากำไรที่ดีกว่า โดยขยายไปยังตลาดที่ยังมีการเติบโตอย่างยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชียแปซิฟิก และอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Operating leverage ผ่านการลดต้นทุนและความซ้ำซ้อนของงานสนับสนุน อีกทั้งบริษัทยังเห็นผลดีจากการถ่ายทำซีรีส์ The White Lotus ซีซัน 3 ที่ทำให้อัตราค่าห้องเฉลี่ย (ADR) ของ MINT ในสมุยเพิ่มขึ้นถึง 40%

MTC : ราคาพื้นฐาน 55.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ MTC สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2567 โดยคาดว่าจะมีกำไร 1.5 พันล้านบาท เติบโต 2% จากไตรมาสก่อนและ 12% จากปีก่อน จากการเติบโตของสินเชื่อที่ 4% จากไตรมาสก่อนและ 15% จากปีก่อน โดยคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ยังควบคุมได้ดี โดยต้นทุนด้านเครดิตคาดว่าจะลดลง 11% จากปีก่อน อยู่ที่ 2.2% ในไตรมาส 4 ปี 2567 จากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่คาดว่าจะทรงตัวที่ 2.8% เรามองว่าวงจรต้นทุนด้านเครดิตของธุรกิจจำนำทะเบียนกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากการปรับปรุงคุณภาพพอร์ตที่ผ่านมา โดยคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2568 เป็นต้นไป และคาดว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ “คุณสู้เราช่วย” จะมีผลกระทบค่อนข้างจำกัด

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามรายงานการว่างงานของสหราชอาณาจักรคาดไว้ที่ 4.4% เท่ากับครั้งก่อนหน้า เงินเฟ้อฝรั่งเศสคาดไว้ที่ 1.8% เท่ากับครั้งก่อนหน้า รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรปคาดไว้ที่ 15 จากครั้งก่อนหน้าที่ 18 และเงินเฟ้อแคนาดาคาดไว้ที่ 1.8% เท่ากับครั้งก่อนหน้า และความเห็นของคณะกรรมการเฟด คุณ Daly
  • วันพุธ ติดตามตัวเลขส่งออกของญี่ปุ่นเดือน ม.ค. คาดไว้ที่ 3.0% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.8% ต่อด้วยเงินเฟ้อทั่วไปของสหราชอาณาจักรคาดไว้ที่ 2.4% เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 2.5% และเงินเฟ้อพื้นฐานคาดไว้ที่ 3.1% เทียบกับครั้งก่อนที่ 3.2% และดัชนีราคาผู้ผลิตคาดไว้ที่ -1.3% YoY, 0.1% MoM เทียบกับครั้งก่อนหน้า -1.5%, 0.1% และรายงานการประชุม FOMC
  • วันพฤหัสฯ ติดตามธนาคารกลางจีน PBOC คาดคงอัตราดอกเบี้ย LPR 1 ปีที่ 3.1% และ 5 ปีที่ 3.6% ต่อด้วยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานคาดไว้ที่ 220K เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 213K
  • วันศุกร์ ติดตามเงินเฟ้อของญี่ปุ่นคาดไว้ที่ 3.7% YoY, 0.2% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.6%, 0.6% และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตเบื้องต้นเดือน ก.พ. ของญี่ปุ่นคาดไว้ที่ 49.6 ส่วนภาคบริการคาดไว้ที่ 52.2 ต่อด้วยทางยุโรปภาคการผลิตคาดไว้ที่ 46 และภาคบริการคาดไว้ที่ 50.5 และทางสหรัฐฯ ภาคการผลิตคาดไว้ที่ 51.3 และภาคบริการคาดไว้ที่ 52.7
- Advertisement -