Daily Focus: Selective and Earnings Play
2025 SET Target : 1600
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways Down อ่อนๆ ในภาคเช้า ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันหนักในช่วงบ่าย และทำให้ดัชนีปิดลบถึง 16.66 จุด ที่ระดับ 1,245.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นลบ. ถ่วงโดยหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับลงแรง โดยเฉพาะ GULF INTUCH ADVANC TRUE เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวดีกว่าตลาด ได้แก่ ประกัน ธนาคาร ค้าปลีก สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีก 1.4 พันลบ. แต่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิหนาแน่น 2.8 พันลบ. (แต่ชะลอการ Short Index Futures สุทธิเหลือเพียง 779 สัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่ง Sideways to Sideways Down โดยมีแนวรับสำคัญที่ Low เดิมราว 1,236 จุด ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่หนุน ตลาดยังคงจับตาผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ต่อเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น รวมถึงเริ่มกังวลถึงภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อของสหรัฐฯตามตัวเลขค้าปลีกในสัปดาห์ก่อน รวมถึงกำไรของ Walmart ที่ต่ำคาด ขณะที่ฝั่งเอเชียตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน ม.ค. สูงกว่าคาด (Headline +4% Core +3.2%) ทำให้ตลาดคาดหวัง BoJ จะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ขณะที่ผลการดำเนินงานของ Alibaba ออกมาดีกว่าคาด โดยรวมจึงอาจเห็นกระแสเงินทุนจากสหรัฐฯที่โยกมาทางฝั่งเอเชียได้บ้าง ส่วนปัจจัยในประเทศให้จับตาการประชุมกนง.สัปดาห์หน้า ว่าจะลดดอกเบี้ยจากระดับ 2.25% ในปัจจุบันหรือไม่ (ตลาดเสียงแตก) ขณะที่การประกาศกำไรบจ. 4Q24 จะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย โดยล่าสุดเท่าที่ประกาศออกมาแล้วต่ำคาดเพียงเล็กน้อยราว 2% โดยต้องติดตามว่าจะเห็นการขยับลดประมาณการกำไรปี 2025 ลงอีกมากน้อยเพียงใด ระยะสั้นคาดหุ้นที่มีกำไรแข็งแกร่งและมีแนวโน้มดีต่อในปี 2025 คาดว่าจะปรับตัวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด ขณะที่ Valuation ปัจจุบันของ SET ที่ค่อนข้างถูก โดยเทรด PER ราว 13 เท่า และมี Earnings Yield Gap กว่า 5% ยังเน้นหุ้น Domestic Play เป็นหลักเพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยสงครามการค้าโลก
กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมหุ้นเพิ่มแล้วโซน 1,300+- หรือต่ำกว่า แนะนำถือลงทุนระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : BBL, CHG, CPALL, ERW, NSL
FSSIA Portfolio: BA, BBL, CHG, CPALL, MTC, NSL, RBF, SEAFCO, SHR, WHA
หุ้นเด่น Finansia 21 ก.พ. 25 : CHG
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท
- เรามองข้ามกำไรสุทธิ 4Q24 ที่คาดว่าจะออกมาไม่สดใสระยะสั้นที่ 156 ลบ. +63% q-q, -43% y-y แต่หากตัดรายการพิเศษส่วนประกันสังคมและการยุติสัญญาบริหารรพ.พัทยาที่เป็นลบใน 4Q24 รวมถึงส่วนประกันสังคมที่เป็นบวกใน 4Q23 เราคาดผลการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 244 ลบ. +20% y-y
- เราคาดผลประกอบการของ CHG จะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งเป็นปกติในปี 2025 ที่ 1.3 พันลบ. +23% y-y หลังประกันสังคมประกาศจ่าย RW>2 Fix ที่ 1.2 หมื่นบาทต่อ RW ขณะที่ฝั่งผู้ป่วยเงินสดคาดว่ายังเติบโตได้ ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 30 เท่า
- แนวรับ 2.18//2.12 บาท แนวต้าน 2.34//2.40 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกจากภูมิภาคสุทธิหนาแน่น US$1,119 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$607 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$353 ล้าน ส่วนฝั่งอาเซียนเม็ดเงินไหลออกทุกประเทศ สูงสุดที่ไทย US$84 ล้าน ยังถูกถ่วงจากความไม่แน่นอนทั้งนโยบายภาษีการค้าของทรัมป์และการลดดอกเบี้ยของ FED ที่ช้า แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก โดยรวมยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) SISB กำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 245 ลบ. +12.4% q-q, +16% y-y ทำ record high ตามคาดโดยรายได้ +7% q-q, +13% Y-Y อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น q-q จบปี 2024 กำไรสุทธิอยู่ที่ 885 ลบ. +35.4% คงคาดกำไรปี 2025-27 เติบโตเฉลี่ย 13.7% y-y CAGR และราคาเป้าหมาย 42 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) SNNP กำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 168 ลบ. +3% q-q, +2% y-y ถือเป็นกำไรนิวไฮตามคาด แต่การเติบโตไม่ตื่นเต้น บริษัทแจ้งเพิ่มวงเงินซื้อหุ้นคืนเป็นเงินไม่เกิน 750 ลบ. จากเดิม 640 ลบ. โดยยังคงระยะเวลาโครงการซื้อหุ้นคืนตามเดิม จนถึงวันที่ 20 ก.พ.25 SNNP ได้ซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 3.65% ของหุ้นทั้งหมด ที่ราคาเฉลี่ย 11.98 บาท/หุ้น
(0) GFPT กำไรปกติ 4Q24 ที่ 311 ลบ. -45% q-q, -23% y-y ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดพอควร จากรายได้ลดลง q-q ตามฤดูกาล โดยเฉพาะราคาไก่ที่ปรับลงทั้งไก่ทั้งตัวและโครงไก่อัตรากำไรขั้นต้นปรับลง q-q และ ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมลดลงแรง เบื้องต้นคาดกำไร 1Q25 จะกลับมาฟื้นตัว q-q ตามราคาไก่ที่ปรับขึ้นดี ประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2025 หุ้นละ 0.2 บาท คิดเป็น yield 2.2% ยังคงเป้าที่ 12.5 บาท แนะนำ เก็งกำไรตามราคาไก่
(0) JPARK กำไรสุทธิ 4Q24 ดีกว่าคาดเล็กน้อย อยู่ที่ 23 ลบ. -76% q-q เพราะไม่มีกำไรจากรายการพิเศษที่เป็นส่วนต่างสัญญาเช่า-ให้เช่าช่วงพื้นที่เหมือนใน 3Q24 แต่เพิ่มขึ้น 80% y-y หลักๆมาจากฐานต่ำของปีก่อน จบปี 2024 มีกำไรปกติอยู่ที่ 86 ลบ. +43% y-y คงคาดกำไรปกติปี 2025 ที่ 93 ลบ. +10% y-y และราคาเป้าหมาย 6.80 บาท ยังแนะนำ “ถือ”
(-) CKP กำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 540 ลบ. -55% q-q, +0.5% y-y ต่ำกว่าเราคาดและตลาดคาด 5-8% โดย q-q ลดลงมากจากปัจจัยฤดูกาลที่ผ่าน Peak Season ใน 3Q24 และทรงตัว y-y จากปริมาณการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าน้ำงึมและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น จบปี 2024 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.34 พันลบ. -8% y-y เรามีแนวโน้มปรับลดประมาณการปี 2025-26 ลง 10-15% หลังงบ 4Q24 ต่ำคาด
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 450.94 จุด หรือ -1.01%, ปิดที่ 44,176.65 จุด โดยตลาดถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร และแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอของวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลก
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนประเมินการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ที่ออกมาแตกต่างกัน นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเลือกตั้งของเยอรมนีที่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศ
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ส่วนใหญ่เปิดลบ ตามทิศทางตลาดสหรัฐฯ หลังวอลมาร์ท (Walmart) ให้แนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าตลาดคาด
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าอยู่ที่บริเวณ 33.55 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -0.53%
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 72.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังสหรัฐฯเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในรัสเซียจะปรับตัวลดลง ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 72.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.30%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 20.00 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 2,956.10 ดอลลาร์/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะส่งผลให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลก ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 2,957.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.06%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 883.72/ 0.65%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 ก.พ. | สหรัฐ: Existing Home Sale (ม.ค.) อังกฤษ: Retail Sales (ม.ค.) |
24 ก.พ. | ยุโรโซน: เงินเฟ้อ (ม.ค.) |
25 ก.พ. | ไทย: ส่งออก (ม.ค.) |
26 ก.พ. | ไทย: ประชุมกนง. สหรัฐ: New Home Sale (ม.ค.) |
27 ก.พ. | สหรัฐ: Durable Goods Orders (ธ.ค.), 4Q24 GDP growth rate 2nd Est. |