GFC โชว์งบปี 2567 โกยรายได้รวมแตะ 373.14 ลบ. โต 4.89% บอร์ดเคาะจ่ายปันผล หุ้นละ 0.15 บาท จ่อขึ้น XD 7 มี.ค.นี้
บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ “GFC” โชว์ผลการดำเนินงานงวดปี 2567 รับอานิสงส์เทรนด์ปั๊มลูกปีมังกรพุ่ง ส่งผลรายได้รวมแตะ 373.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.89% ดันกำไรสุทธิ 73.33 ล้านบาท พร้อมเสิร์ฟข่าวดี เคาะปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท จ่อขึ้น XD 7 มี.ค.นี้ และกำหนดจ่าย วันที่ 27 พ.ค.68 ด้าน CEO “กรพัส อัจฉริยมานีกูล” เดินเกมรุก เปิดให้บริการเข้ารับการรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากเต็มพิกัด ทั้ง 3 สาขา ดันรายได้ปี 68 โต 15%
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) “GFC” ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยาก เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 373.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.39 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.89 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 73.33 ล้านบาท สาเหตุที่บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นมาจาก การวางแผนอยากมีลูก “ปีมังกรทอง” ส่งผลให้เทรนด์ที่ในช่วงดังกล่าว ตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 จนถึง ไตรมาส 1/2567 เป็นช่วงพีคที่สุดของคนไข้ที่เข้ามารับการรักษา จนทำให้อัตราการสร้างรายได้ในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณามติอนุมัติจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง โดยจัดสรรกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 67 ถึง วันที่ 31 ธ.ค.67 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา หุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นจำนวนเงินปันผลทั้งสิ้น 33 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับปันผลระหว่างกาล (Record date) ในวันที่ 10 มี.ค.68 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 7 มี.ค.68 เพื่อจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 27 พ.ค. 68
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2568 GFC ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากการขับเคลื่อนการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก ภายใต้การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยในด้านการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อตอบโจทย์การให้บริการผู้ที่เข้ารับการรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศ และต่างประเทศครบ ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ GFC Ubon – GFC Rama 9 International และ GFC Rama 3 ได้อย่างแข็งแกร่ง ภายใต้การให้บริการผู้เข้ารับการรักษาสำหรับผู้มีบุตรยากได้ครบทุกมิติ ตั้งแต่การตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การฝากไข่ และการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน PGT-A
รวมถึงชูนวัตกรรมการนำเอาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ PGT-A Plus มาใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจความผิดปกติของพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการคัดกรองหาตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์และเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์
“ในปีนี้ GFC มีแผนขยายพอร์ตกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่จะรับการรักษาผู้มีบุตรยากมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดกลุ่มลูกค้าจีน รวมถึงยังได้ศึกษาแผนการขยายตลาดเจาะกลุ่มลูกค้า CLMV ลูกค้าอินเดีย รวมถึงลูกค้าตะวันออกกลาง เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีดีมานด์สูงที่ต้องการเข้ารับการรักษาในประเทศไทย ดังนั้นมองว่าการต่อยอดดังกล่าวจะขยายฐานลูกค้าให้กับ GFC ในอนาคตมากขึ้น หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทย โดย GFC ถูกจัดอันดับจากผู้ที่เข้ารับการรักษาว่าเป็นผู้ให้บริการด้านการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์อันดับต้นๆ ของประเทศ ที่มี Success Rate สูง ของอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์เฉลี่ยสูงถึง 72.58%”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ 2 สาขาใหม่ GFC Ubon ที่เปิดให้บริการเพื่อรองรับผู้เข้ารับการรักษาได้ครอบคลุมในพื้นที่อุบลฯ และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา และ GFC Rama 9 International ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญ สู่การยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากอย่างครอบคลุม โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการช่วงต้นปี 2567 ล่าสุดทั้ง 2 สาขา มีผู้ที่เข้ารับการปรึกษาและเข้ารับการรักษาเพื่อมีบุตรยาก ทั้งคนไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เติบโตสอดรับกับที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ธุรกิจรักษาภาวะผู้มีบุตรยากในประเทศไทย จะเติบโตขึ้น 6.20% โดยมีมูลค่าตลาดกว่า 6,200 ล้านบาท จากความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ