KS Daily View 11.03.2025 >>> SET ขาดปัจจัยบวก รอความชัดเจนมาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่น มองกรอบ SET วันนี้ 1,150-1,180 จุด แนะนำ CENTEL, CPN

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,150-1,180 จุดจากการปรับตัวลดลงในวันแรกของสัปดาห์ที่ -2% ขาดปัจจัยบวกกระตุ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ในช่วงสัปดาห์นี้เราแนะนำติดตามผลการประชุมของบริษัทภายหลังประกาศงบใน 4Q24 ถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2025 นี้ อีกทั้งเราคาดปัจจัยที่ต้องติดตามตลอดสัปดาห์นี้คือการประกาศผลการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับEntertainment complex รวมถึงแนวโน้มของมาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะมีการหารืออย่างเช่นโครงการการสนับสนุนการซื้อหุ้นคืน การจัดตั้งกองทุน ThaiESG 2 ที่จะมารองรับเม็ดเงินของ LTF จะมีความชัดเจนภายในอาทิตย์นี้และช่วงครึ่งปีหลังมีโครงการ Jump+ ขณะที่โครงการ TISA ปัจจุบันยังเป็นเพียงแนวคิดอยู่ ซึ่งต้องพิจารณาและออกแบบเพื่อใหเหมาะสมกับกับตลาดทุนไทย โดยความตั้งใจของโครงการดังกล่าวเพื่อสนับสนุนด้านการออม

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำลงทุนในหุ้น CENTEL และ CPN 

ข่าวและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน

1.กระทรวงกลาโหมจีนประกาศใน10 มี.ค. ว่า จีน รัสเซีย และอิหร่าน ได้จัดการซ้อมรบร่วมทางทะเลในอ่าวโอมาน เพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกองกำลังของทั้งสามชาติกระทรวงระบุว่า การซ้อมรบร่วม “ซีเคียวริตี เบลต์-2025” (Security Belt-2025) เป็นเวลา 5 วัน เริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (9 มี.ค.) ในน่านน้ำนอกชายฝั่งเมืองชาบาฮาร์ทางตอนใต้ของอิหร่าน

2.ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) บริษัทอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากไต้หวัน ประกาศใน 10 มี.ค. ว่าได้เปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่เป็นตัวแรก และวางแผนใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการจัดการห่วงโซ่อุปทาน บริษัทฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า โมเดลดังกล่าวมีชื่อว่า ฟ็อกซ์เบรนซึ่งได้รับการฝึกด้วยชิป GPU รุ่น H100 ของ Nvidia จำนวน 120 ตัว และใช้เวลาพัฒนาเสร็จสิ้นภายในประมาณ 4สัปดาห์

3.กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดมาตรการสร้างความเชื่อมั่นของตลาด ทั้งโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ที่จะช่วยให้บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืนได้คล่องตัวขึ้น การจัดตั้งกองทุน Thaiesg 2 และช่วงครึ่งปีหลังมีโครงการ Jump+ ซึ่งค่อนข้างมีความชัดเจนแล้ว หวังประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนพ.ค. นี้ สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอยู่ระหว่างการหารือกับคลัง ซึ่งอาจต้องมีการพูดคุยถึงรายละเอียดเพิ่มอีก

4.มาร์ค คาร์นีย์  หัวหน้าพรรคเสรีนิยม (Liberal Party) และเตรียมก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาคนใหม่  ได้วิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ว่า “กำลังโจมตีคนทำงาน ครอบครัว และธุรกิจต่าง ๆ ของแคนาดา“ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. เพื่อเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาที่25% และปรับขึ้นภาษีศุลกากรผลิตภัณฑ์พลังงานของแคนาดาอีก 10% ต่อมาในวันที่ 3ก.พ. ทรัมป์ประกาศชะลอการบังคับใช้กฎหมายภาษีกับทั้งสองชาติ และเจรจากันต่อ ส่งผลให้มาตรการภาษีมีผลบังคับใช้อีกครั้งในวันที่ 4มี.ค.

5.รอยเตอร์ชี้ โลกเข้าสู่ยุคน้ำมันปาล์มแพง หลังอินโดฯ หั่นส่งออก-เร่งผลิตไบโอดีเซล อินโดนีเซียเพิ่งเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มในไบโอดีเซลเป็น 40% ในปีนี้ และมีแผนเพิ่มเป็น 50% ในปี 2569 รวมถึงเตรียมผสมในน้ำมันเครื่องบินไอพ่น 3% ในปีหน้า เพื่อลดการนำเข้าเชื้อเพลิง ส่งผลให้การส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียจะลดลงเหลือเพียง 20 ล้านเมตริกตันในปี 2573 จากปัจจุบัน 29.5 ล้านตัน

Daily pick

CENTEL: ราคาพื้นฐานที่ 41.86 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CENTEL จากเป้าหมายสำหรับทั้งโรงแรมเติบโตราว 23% มาจากส่วนของ RevPar ราว 4,500 – 4,800 บาท และอัตราการเข้าพักที่ 74-77% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ระดับ 71% และ ADR ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7-10% และสำหรับธุรกิจอาหารบริษัทตั้งเป้า SSSG เพิ่มขึ้นราว 3-5% ในปี 2025 และมีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นที่ 50-70 สาขา คาดรายได้ธุรกิจอาหารเติบโตราว 6-8% สำหรับธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2025 มาจากกลุ่มupscale and luxury hotels (Centara Grand, Centara Reserve) และคาด Centara Mirage Pattaya กับ Centara Karon จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจโรงแรมสำหรับปีนี้

CPN: ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPN แม้มีความกังวลเรื่องการลดตัวคูณมูลค่าหุ้นซึ่งราคาหุ้น CPN ขณะนี้ซื้อขายที่ -2SD หรือ 13 เท่าของกำไรปี 2568 แต่เราคาดว่าจะเห็น downside risk จำกัดจากปัจจุบันเนื่องจาก CPN ยังเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ สำหรับค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยพอร์ตธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดีซึ่งส่งผลให้ปัจจัยพื้นฐานและผลการดำเนินงานของธุรกิจค้าปลีกแข็งแกร่งที่คงสามารเพิ่มพื้นที่เช่าได้ต่อเนื่องในทุกปีและมีการปรับราคาค่าเช่าได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเราคาดโครงการดุสิตทั้งห้างและ ออฟฟิตที่จะเปิดตัวครึ่งปีหลังจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2026 นอกจากนี้ CPN ยังสามารถสร้างกระแสเงินสดอิสระได้ดีจะช่วยในการลดหนี้สินลงได้ในอนาคต

รานงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตาม รายงานการคาดการณ์การเติบโของ GDP ของญี่ปุ่นใน 4Q24 ครั้งสุดท้าย ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วย ติดตามตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ในสหรัฐ (US JOLTS Job openings) เดือน ม.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 7.6 ล้านตำแหน่ง

วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ (US CPI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.9% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +3.0%% YoY และเงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ 3.2% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.3% YoY

วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐเดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.2% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM ต่อด้วย ตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.21 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนครั้งแรก (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 65.0 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 64.7 จุด

- Advertisement -