บล. โกลเบล็ก (GBS) ลุ้นหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาส Rebound เก็งกำไร ตลท. ศึกษาแผนลงทุน Individual Savings Account พร้อมจับตานายกร่วมหารือรมว.คลัง -ก.ล.ต.-ตลท.จับตาทิศทางตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่น ดัน GDP เติบโต 3.5% จึงคาดการณ์กรอบดัชนีที่ระดับ 1,155-1,190 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนใน 7 หุ้นเด่นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาส Rebound โดยมีแรงหนุนจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุน Individual Savings Account หรือบัญชีออมหุ้นไทยระยะยาว โดยจะให้ประชาชนคนไทยเข้ามาซื้อหุ้นไทยเพื่อการออมระยะยาว หรือเพื่อการเกษียณ ซึ่งเงินที่นำไปซื้อหุ้นไทยในแต่ละปีก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี และเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาให้ขายหุ้นได้ ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีขายหุ้น

ขณะเดียวกันทางนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง รวมถึง  ก.ล.ต. และ ตลท. หารือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อหามาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นให้มีความเชื่อมั่น นักลงทุนกลับมาซื้อขายเช่นเดิม และต้องการผลักดันให้  GDP เติบโต 3.5% โดยภายในเดือน มี.ค.นี้ จะมีความชัดเจนเรื่องมาตรการฟื้นความเชื่อมั่นและผลักดันให้จีดีพีไทยไปถึงเป้าหมายให้ได้ ล่าสุดทางกระทรวงการคลังเสนอบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาแผนแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทเฟส 3 ในกลุ่มเป้าหมายกรอบอายุ 16 – 20 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายในไตรมาส 2/68 ประกอบกับคำกล่าวของประธานเฟด ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่ดี ฝ่ายวิจัยจึงคาดการณ์กรอบดัชนีที่ 1,155-1,190จุด

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนที่จับตาในประเทศ อาทิ สัปดาห์ที่ 2 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย, สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, วันที่ 12 มี.ค. รายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ฉบับย่อ, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์, สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์, วันที่ 24 มี.ค. ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี, สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคและ วันที่ 31 มี.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตา วันนี้ 11 มี.ค. ญี่ปุ่น รายงานการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนม.ค. และ GDP ไตรมาส 4/67, สหรัฐ รายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค., วันที่ 12 มี.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์, วันที่ 13 มี.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์, วันที่ 14 มี.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมี.ค., วันที่ 18-19 มี.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งที่ 2/68

ดังนั้น นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก  แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA เนื่องจาก ตลท. อยู่ระหว่างศึกษาโครงการออมหุ้นไทยระยะยาว โดยจะให้ประชาชนคนไทยเข้ามาซื้อหุ้นไทยเพื่อการออมระยะยาว หรือเพื่อการเกษียณ โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์ ได้แก่  CPALL, SCB, TISCO, EGCO, BDMS, TU และ ADVANC

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีแรงกดดันจาก “ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา และเม็กซิโก แต่ยังคงเก็บภาษีนำเข้าจากจีน ขณะที่จีนประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มอีก 15% เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีจากสหรัฐ โดยจะมีผลวันที่ 10 มี.ค. คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ นอกจากนี้นักลงทุนปรับเพิ่มคาดการณ์ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น 3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมคาด 1 ครั้งในปีนี้ เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ ให้ติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และ PPI ของ มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 2,860 – 2,955 $/Oz แนะนำเก็งกำไรในกรอบ

- Advertisement -