KS Daily View 12.03.2025 >>> ไฟเขียวตั้งกอง Thai ESGX หวังกระตุ้นตลาดหุ้น คาด SET วันนี้กรอบ 1,180-1,200 จุด แนะนำ BDMS, CPALL

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,180-1,200 จุด โดยการเคลื่อนไหวของดัชนีเมื่อวานเปิดติดลบจาก sentiment เชิงลบของตลาดหุ้นในสหรัฐฯ แต่มีการปรับตัวในช่วงบ่ายของการซื้อขายมาจากปัจจัยหลักที่ ครม. มีการอนุมัติตั้งกอง Thai ESGX ที่ให้สิทธิประโยชน์สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5แสนบาท โดยสามารถหักภาษีในปีแรกไม่เกิน 3แสนบาท (ที่เหลือนำมาเฉลี่ยหักใน 4 ปี) ประกอบกับให้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนใหม่นี้เป็นพิเศษอีกไม่เกิน 3แสนบาท โดยการแจ้งย้ายกองต้องดำเนินการและการซื้อหน่วยลงทุนใหม่ภายใน 2 เดือน แต่ไม่เกินมิ.ย.68 ประกอบกับการแถลงเงื่อนไขของการแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 3 ที่จะเน้นไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่มาอายุระหว่าง 16-20 ปีก่อนในรอบนี้ จากทั้งสองปัจจัยสนับสนุนส่งผลให้มีซื้อคืนในวันก่อนหน้า สำหรับแนวโน้มหุ้นไทยเรามองมี valuation อยู่ในระดับไม่สูงมากและความคาดหวังค่อนข้างด่ำ ดั้งนั้นคาดว่าตลาดมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นได้จากความเชื่อมั่นและความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในอนาคต โดยที่ผ่านมา regulator และหน่วยงานรัฐหันมาให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาสำหรับตลาดทุนไทยมากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำลงทุนในหุ้น BDMS และ CPALL

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index)ผลสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 (สำรวจระหว่างวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ 2568)พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลงมาอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ที่ระดับ 66.11 นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุนและการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.

2.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงเงื่อนไขการใช้จ่ายในโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 3 ที่จะให้กับกลุ่มอายุ 16-20 ปี ว่า รอบนี้ไม่มีการกำหนดสินค้าต้องห้าม แต่เป็นการกำหนดร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการแทน โดยมี 8 ข้อห้ามสำหรับร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ สถานบริการน้ำมัน สถานบริการ ร้านอาหาร ร้านขายสลาก ร้านขายสุรา ร้านขายบุหรี่

3.ครม.อนุมัติตั้งกอง ThaiESGX สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 5แสนบาท โดยสามารถหักภาษีในปีแรกไม่เกิน 3แสนบาท (ที่เหลือนำมาเฉลี่ยหักใน 4 ปี) ประกอบกับให้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนใหม่นี้เป็นพิเศษอีกไม่เกิน 3แสนบาท โดยการแจ้งย้ายกองต้องดำเนินการและการซื้อหน่วยลงทุนใหม่ภายใน 2 เดือน แต่ไม่เกินมิ.ย.68

4.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เตรียมจัดการประชุมร่วมกับผู้นำของภาคธุรกิจสหรัฐในวันนี้ หลังจากที่มูลค่าตลาดของบริษัทหลายแห่งทรุดตัวลงในช่วงนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ รวมทั้งเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ซึ่งได้กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนทั้งนี้ คาดว่าปธน.ทรัมป์จะเป็นประธานในการประชุมพบปะกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐราว 100 คนในการประชุม Business Roundtable ที่กรุงวอชิงตัน

5.คณะทำงานด้านการกระจายพลังงานและความยืดหยุ่นแห่งอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า อินโดนีเซียเตรียมขยายกำลังการกลั่นน้ำมันดิบเพิ่มเป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน กระจายตัวใน 16 พื้นที่ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากแผนเดิมที่ตั้งเป้าไว้เพียง 500,000 บาร์เรลต่อวันในพื้นที่เดียว

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

BDMS: ราคาพื้นฐานที่ 29.40 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BDMS จากการประชุมที่ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตรายได้ที่ 7-8% ใน 1H68 และตั้งเป้าอัตรากำไร EBITDA ที่ 24-25% ทั้งปี โดยคาดรายได้คนไทยโต 5% และรายได้คนไข้ ตปท โต มากกว่า 10% โดยรายได้คนไทย จะโตจากทั้งจ่ายเงินเองและประกัน แต่จ่ายเงินเองจะโตช้ากว่า จากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะคนไข้กลุ่มรายได้กลางๆ ส่วนคนไข้รายได้สูงไม่กระทบมาก รายได้ประกันเดือน มค โต 6% และส่วนรายได้คนไข้ ตปท โตดีแบบกระจายหลายประเทศ กลุ่มตะวันออกกลางโต 24-26% เดือน มค-กพ ปี 2568 และกลุ่ม CLMV โต 15% เดือน กพ ปี 2568 vs 7% ปี 2567 โดยเราคาดผลกระทบของความกังวลเรื่อง co-payment มีจำกัด โดยบริษัทชี้ว่าผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์โรคง่ายที่ได้รับการนอนรักษาตัวมีราว 1-2% ของรายได้ทั้งหมด

CPALL: ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPALL จากการประชุมที่ผ่านมาโดย ผู้บริหารให้แนวทาง SSSG ปี 2568 สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจบวกกับอัตราเงินเฟ้อ หรือเทียบเท่าราว 3-5% ในขณะที่ 2 เดือนแรกของปี 2025 CPALL สามารถแสดงการเติบโตของ SSSG ที่ระดับ 3.5% และการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นที่ 10-20bps ในขณะที่เป้าหมายการขยายจำนวนร้านค้า 700 แห่งเท่ากับปีที่แล้ว แต่ขนาดร้านค้าที่ใหญ่กว่า โดยร้านค้าในพื้นที่ท่องเที่ยวยังคงมีผลงานดีกว่าพื้นที่อื่น ในขณะที่ร้านค้าที่อยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมมีผลงานการเติบโตต่ำที่สุด ขณะที่ RTE และ RTD ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของยอดขายและการขยายอัตรากำไร นอกจากนี้ คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยต่ำลงเป็นผลดีต่อบริษัท และทำให้ไม่มีแรงกดดันในการเร่งลดหนี้มากนัก ในขณะที่คาดว่า SG&A ต่อยอดขายควรจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 2568 เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการของ CPAXT

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ (US CPI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.9% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +3.0%% YoY และเงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ 3.2% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.3% YoY
  • วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐเดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.2% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM ต่อด้วย ตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.21 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนครั้งแรก (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 65.0 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 64.7 จุด
- Advertisement -