KS Daily View 14.03.2025>>> SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,120-1,170 จุด ภาพรวมดัชนียังคงทรงตัวในขาลง ไร้ปัจจัยบวกสนับสนุนโดยเฉพาะปัจจัยในประเทศที่เป็น Policy driven แนะนำ BDMS และ AP

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,120-1,170 จุด ภาพรวมดัชนียังคงทรงตัวในขาลง ไร้ปัจจัยบวกสนับสนุนโดยเฉพาะปัจจัยในประเทศที่เป็น Policy driven เป็นหลักขาดการปฏิรูปและนโยบายที่มีประสิทธิผลในระยะยาวส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งหากผลตอบรับของกองทุน ThaiESGX ที่ก.ล.ต. พร้อมดำเนินการออกเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุน ภายในเมษายน 2568 เพื่อรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ ในช่วงพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568 ออกมามีนักลงทุนให้ความสนใจน้อยกว่าคาดในการเปลี่ยนจาก LTF มากองทุนใหม่จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง และสำหรับปัจจัยในต่างประเทศยังคงต้องติดตามผลกระทบของนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มีโอกาสขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศคู่ค้า เช่น ประเทศแคนนาดา ประเทศในกลุ่มยุโรป และหากมีการเริ่มต้นการตั้งเป้าเก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับประเทศแถบอาเซียนอย่างไทยและเวียดนามเราคาดจะเป็น worst case สำหรับ SET index ของประเทศไทย นอกจากนี้ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดในต่างประเทศด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำลงทุนในหุ้น BDMS และ AP

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.7% ในเดือนม.ค. PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% จากระดับ 3.8% ในเดือนม.ค
  2. ก.ล.ต. พร้อมดำเนินการออกเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและจัดการกองทุน Thai ESGX ที่สอดรับกับแนวนโยบายของภาครัฐ โดยเปิดให้ บลจ. ยื่นขอจัดตั้งกองทุนรวมได้ภายในเมษายน 2568 รองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ ในช่วงพฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568
  • สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA)เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกน้ำมันของรัสเซียว่า แม้จะเผชิญมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่จากสหรัฐฯ แต่ปริมาณการส่งออกยังคงแข็งแกร่ง โดยในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลงจากเดือนม.ค.เพียง 100,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 7.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรส่งผลกระทบต่อราคาขายน้ำมันของรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมัน 183 ลำ ทำให้จำนวนเรือที่ใช้ขนส่งลดลง ส่งผลให้ค่าระวางเรือพุ่งสูงขึ้น รัสเซียจึงจำเป็นต้องลดราคาขายน้ำมันลงเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
  • กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC ประกาศคงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2568 และ 2569 ไว้ที่ระดับเดิมโอเปกได้เปิดเผยคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนที่เผยแพร่ออกมาโดยประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้น 1.45 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2568 และขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 1.43 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2569 ซึ่งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากการประเมินเมื่อเดือนที่แล้วโอเปกระบุว่า “ความต้องการน้ำมันทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 105.2 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยเฉลี่ย โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการเดินทางทางอากาศที่แข็งแกร่ง
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณถึงการทยอยลดมาตรการกระตุ้นการเงิน โดยแสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการบริโภคในประเทศ พร้อมย้ำจุดยืนในการปรับลดขนาดงบดุลที่ “ใหญ่เกินไป“และ”นับจากนี้ไป เราน่าจะได้เห็นอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากต้นทุนการนำเข้าชะลอตัวลง ในทางกลับกัน ค่าจ้างยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราคาดว่าค่าจ้างที่แท้จริงและการบริโภคจะปรับตัวดีขึ้น”

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • BDMS: ราคาพื้นฐานที่ 29.40 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BDMS โดยที่ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตรายได้ที่ 7-8% ใน 1H68  และตั้งเป้าอัตรากำไร EBITDA ที่ 24-25% ทั้งปี โดยคาดรายได้คนไทยโต 5% และรายได้คนไข้ ตปท โต มากกว่า 10% โดยรายได้คนไทย จะโตจากทั้งจ่ายเงินเองและประกัน โดยเฉพาะคนไข้กลุ่มรายได้ปานกลางส่วนคนไข้รายได้สูงไม่กระทบมาก  รายได้ประกันเดือน มค โต 6% และส่วนรายได้คนไข้ ตปท โตดีแบบกระจายหลายประเทศ  กลุ่มตะวันออกกลางโต 24-26% เดือน มค-กพ ปี 2568 และกลุ่ม CLMV โต 15% เดือน กพ ปี 2568 vs 7% ปี 2567 โดยเราคาดผลกระทบของความกังวลเรื่อง co-payment มีจำกัด โดยบริษัทชี้ว่าผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์โรคง่ายที่ได้รับการนอนรักษาตัวมีราว 1-2% ของรายได้ทั้งหมด

  • AP: ราคาพื้นฐาน 9.90 บาท

เรามอง AP เป็น developer อันดับ 1 สร้าง presales สูงสุด สนันสนุนจากโครงการในมือมากกว่า 180 โครงการ ในทำเลที่ครอบคลุม BMA และหัวเมืองหลักในทุก product และทุก segment รวมถึงมี brand ที่แข็งแกร่ง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง DE ต่ำ 0.7x สร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนการพัฒนาและสภาพคล่องประกอบกับผู้บริหารมีประสบการณ์สูง มีการบริหารงานที่ดีและปรับตัวได้เร็ว สามารถสร้างความได้เปรียบเมื่อโอกาสมาและลดความเสี่ยงเมื่อตลาดผันผวน ราคาหุ้นซืัอขายที่ PER และ PBV ที่ไม่สูง และให้เงินปันผลที่ดี

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนครั้งแรก (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 65.0 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 64.7 จุด
- Advertisement -