บล.เอเซียพลัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 24/03/68
ตลาดยังขาดความชัดเจน
TOP PICK BJC / ADVANC / PTTEP
EXTERNAL FACTOR
• 2 เม.ย.68 ทั่วโลกจับตาแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับทุกประเทศของ TRUMP ซึ่ง ล่าสุดได้กล่าวว่าผมไม่ได้เปลี่ยนใจต่อการกระทำดังกล่าว แค่คำว่ายืดหยุ่นเป็นคำที่มี ความสำคัญ และ บางประเทศอาจได้รับการยกเว้น ซึ่งทำให้ตลาดการเงินผ่อนคลาย ความกังวลในช่วงสั้นได้
• การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนอาจเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านการเดินหน้า งบประมาณปี 2568 ที่เร็วขึ้น อีกทั้งรัฐบาลบาลท้องถิ่นจีนออกพันธบัตรสุทธิ 2.4 ล้าน ล้านหยวน ใน ม.ค. – ก.พ. 68 ซึ่งมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบ YOY ดังนั้นการที่ GDP GROWTH ปีนี้ของจีนจะแตะระดับ +5%YOY ก็คงไม่ห่างไกลความจริง
INTERNAL FACTOR
• การเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 2568 CONSENSUS คาดการณ์ขยายตัวเฉลี่ย +2.8%YOY (ต่ำสุดคาด 1.7%, สูงสุดคาด 3.1%) ซึ่งมีแนวโน้มโน้มดีขึ้นจากปีก่อน
• ขณะที่ศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เผยอดส่งออกไทยเดือน ก.พ. 68 พุ่ง +14.0%YOY สูงกว่าตลาดคาดที่ 8.0%YOY
• อย่างไรก็ตามในระยะข้างหน้า บ้านเรายังระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกมากขึ้น โดยเฉพาะความรุนแรงของ TRADE WAR ส่วนปัจจัยภายในประเทศวันนี้ 24-25 มี.ค. 68 จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
INVESTMENT STRATEGY
• หุ้นใน SET100 ลงมาเร็วลงมาลึกจากจุดสูงสุดปีที่แล้วเฉลี่ย -34% จนมีหุ้นใน SET100 ถึง 39 ตัว ที่มี PBV < 1 และปัจจุบันเริ่มเห็นการประกาศซื้อหุ้นคือจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT และมีบริษัทต่างๆ ซื้อหุ้นคืนไปแล้วกว่า 4.8 พันล้านบาท
• ฝ่ายวิจัยฯ ทำการค้นหาหุ้นที่มีโอกาสถูกซื้อหุ้นคืน คือ หุ้นที่ VALUATION ถูก, มีเงินสดในมือสูง, พร้อมกับมี เงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก ได้ผลลัพธ์ 20 บริษัท คือ BANPU, EGCO, BGRIM, BCP, RCL, IRPC, TOP, HANA, PTT, CK, CKP, PTTGC, BCPG, GPSC, STGT, SCC, SIRI, SJWD, TU, SCGP
ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย
ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย (สัดส่วนราว 10% – 12% ของ GDP ไทย) ตั้งแต่ 1 ม.ค. –16 มี.ค. 68 โต 3.9% YOY มาที่ 8.3 ล้านคน ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวยังต่ำกว่าสมมติฐานฝ่ายวิจัยที่มองทั้งปีขยายตัว 8.6% YOY เหตุ เพราะนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้า โดยตัวเลขสัปดาห์ 10 มี.ค. –16 มี.ค. 68 จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยอยู่ที่ 70,604 คน แม้ ฟื้นตัว WOW ต่อเป็นสัปดาห์ที่สองระดับ 4% แต่ยังหดตัว 46% YOY ผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดกับ ซิง ซิง และการ แข่งขันด้านการท่องเที่ยวจากประเทศอื่น อาทิ ญี่ปุ่น
ทำให้เป้าหมายสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยดูท้าทายขึ้น หากอัตราการเปลี่ยนแปลง YOY บนฐานที่เข้าช่วง รอมฎอนเต็มสัปดาห์เหมือนกัน และช่วง เม.ย. ที่มีเทศกาลสงกรานต์ ยังไม่ฟื้น โดยกรณีที่นักท่องเที่ยวฯ ปี 2568 เข้าไทย ประมาณ 37 -37.5 ล้านคน อัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 4.1% -5.5% YOY
ปัจจัยภายนอกมีอะไรที่น่าติดตามบ้าง
เริ่มจากวันที่ 2 เม.ย.68 ทั่วโลกจับตาแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับทุกประเทศของ TRUMP ซึ่งล่าสุดได้กล่าวว่า ผมไม่ได้เปลี่ยนใจต่อการกระทำดังกล่าว แค่คำว่ายืดหยุ่นเป็นคำที่มีความสำคัญ และ บางประเทศอาจได้รับการ ยกเว้น นอกจากนี้TRUMP กล่าวว่า เขามีแผนที่จะพูดคุยกับสี จิ้นผิง หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้า เกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ตลาดการเงินผ่อนคลายความกังวลในช่วงสั้นได้
อย่างไรก็ตาม BLOOMBERG ได้คาดการณ์ผลกระทบจากการขึ้นภาษีศุลกากรของ TRUMP ว่าจะส่งผลกระทบต่อ แต่ละประเทศเท่าไหร่บ้าง ทั้งในมุมของมูลค่าผลกระทบ และ %GDP ซึ่งต้องติดตามว่าผลลัพธ์จะกระทบมาก/น้อยแค่ ไหน และจะมีประเทศไทยเอี่ยวในสมการนี้หรือไม่ (ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯเป็นอันดับที่ 11)
ส่วนอีกประเด็น คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนอาจเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านการเดินหน้างบประมาณปี2568 ที่ เร็วขึ้น หลังเกิดการเบิกจ่ายที่ล่าช้าไปกว่า 11 เดือนในปี 2567 อีกทั้งรัฐบาลบาลท้องถิ่นจีนออกพันธบัตรสุทธิ 2.4 ล้านล้านหยวน ใน ม.ค. – ก.พ. 68 ซึ่งมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบ YOY ดังนั้นการที่ GDP GROWTH ปีนี้ของจีนจะแตะ ระดับ +5%YOY ก็คงไม่ห่างไกลความจริง
ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้จริง ประเทศไทยก็น่าจะได้ประโยชน์ไปด้วยในมุมของการส่งออกไทยไปจีนที่มีมูลค่า สูงสุดเป็นอันดับ 1 ส่วนกลยุทธ์การลงทุน เน้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว อาทิ
กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม และ LOGISTIC : AOT, ERW, CENTEL, MINT
กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์: HANA, KCE, DELTA
กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย : AP, LH, SIRI ORI
กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี: PTT, TOP, PTTGC, PTTEP, IVL
เศรษฐกิจไทยปีนี้มีแต่เรื่องท้าทาย
การเติบโตเศรษฐกิจไทยในปี 2568 CONSENSUS คาดการณ์ขยายตัวเฉลี่ย +2.8%YOY (ต่ำสุดคาด 1.7%, สูงสุด คาด 3.1%) ซึ่งมีแนวโน้มโน้มดีขึ้นจากปีก่อนที่ +2.5%YOY สำหรับปัจจัยหนุนภายในประเทศหลักๆ ยังคาดหวัง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ DIGITAL WALLET เฟส 3 (อายุ 16 –20 ปี) ช่วง 2Q68, มาตการผ่อนปลน LTV ซึ่ง ธุรกิจอสังหาฯ มีสัดส่วน 4.3% ของ GDP เป็นต้น โดยน่าจะช่วยเบาเทาแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกได้บ้าง
ขณะที่ศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เผยอดส่งออกไทยเดือน ก.พ. 68 พุ่ง +14.0%YOY สูงกว่าตลาดคาดที่ 8.0%YOY หนุนให้ไทยกลับมาเกินดุลการค้าได้อีกครั้ง ล่าสุดอยู่ที่ 1,988 ล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาด ส่งออกไทยในช่วง 1Q68 โตเป็นตัวเลขสองหลัก ทั้งปีมีลุ้นโตทะลุเป้า 3% ซึ่งสะท้อนถึงการเร่งส่งออกไปยังประเทศคู่ ค้าค่อนข้างชัดเจน หวังเลี่ยงผลกระทบจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค่าสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามในระยะข้างหน้า บ้านเรายังระวังความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกมากขึ้น โดยเฉพาะความรุนแรงของ TRADE WAR ซึ่งเหลือเวลาอีกราว 1 สัปดาห์ ที่จะครบกำหนดการบังคันใช้ภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เม.ย. 68 ส่วนปัจจัยภายในประเทศวันนี้ 24-25 มี.ค. 68 จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ก่อนที่ 26 มี.ค. 68 สภา ผู้แทนราษฎรจะมีการลงมติ
ค้นหา 20 หุ้นที่ถูกจนอาจเห็นบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนได้
หุ้นใน SET100 ลงมาเร็วลงมาลึกจากจุดสูงสุดปีที่แล้วเฉลี่ย -34% จนมีหุ้นใน SET100 ถึง 39 ตัว ที่มี PBV < 1 และ ปัจจุบันเริ่มเห็นการประกาศซื้อหุ้นคือจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT และนับตั้งแต่ต้นปี มีบริษัทต่างๆ ซื้อหุ้นคืนไปแล้ว กว่า 4.8 พันล้านบาท (YTD)
ฝ่ายวิจัยฯ ทำการค้นหาหุ้นที่มีโอกาสถูกซื้อหุ้นคืน ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
1. หุ้นที่ VALUATION ถูก (PBV < 1)
2. มีเงินสดในมือสูง (CASH ON HAND > 15% ของ MARKET CAP)
3. พร้อมกับสามารถสร้างเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกได้(CFO 2024 > 0)
ได้ผลลัพธ์ 20 บริษัท คือ BANPU, EGCO, BGRIM, BCP, RCL, IRPC, TOP, HANA, PTT, CK, CKP, PTTGC, BCPG, GPSC, STGT, SCC, SIRI, SJWD, TU, SCGP
ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปีนี้
ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย (สัดส่วนราว 10% -12% ของ GDP ไทย) ตั้งแต่ 1 ม.ค. –16 มี.ค. 68 โต 3.9% YOY มาที่ 8.3 ล้านคน ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวยังต่ำกว่าสมมติฐานฝ่ายวิจัยที่มองทั้งปีขยายตัว 8.6% YOY เหตุเพราะนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้า โดยตัวเลขสัปดาห์ 10 มี.ค. – 16 มี.ค. 68 จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยอยู่ที่ 70,604 คน แม้ฟื้นตัว WOW ต่อเป็นสัปดาห์ที่สองระดับ 4% แต่ยังหดตัว 46% YOY ผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิด กับ ซิง ซิง และการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวจากประเทศอื่น อาทิ ญี่ปุ่น
ทำให้เป้าหมายสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยดูท้าทายขึ้น หากอัตราการเปลี่ยนแปลง YOY บนฐานที่เข้า ช่วงรอมฎอนเต็มสัปดาห์เหมือนกัน และช่วง เม.ย. ที่มีเทศกาลสงกรานต์ ยังไม่ฟื้น โดยกรณีที่นักท่องเที่ยวฯ ปี 2568 เข้าไทยประมาณ 37 -37.5 ล้านคน อัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 4.1% -5.5% YOY