บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 25/03/68

SET Index ฟื้นบางๆ
กลยุทธ์เลือกหุ้น Window Dressing
Market Strategy
SET Index แกว่งฟื้นตัวแต่ Upside จำกัดตามกรอบ 1180-1200 จุด แรงหนุนจากความกังวลที่ลดลงต่อการใช้กำแพงภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นจากมาตรการจำกัดการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา แต่มูลค่าการซื้อขายที่กลับมาเบาบางอาจเป็นปัจจัยที่จำกัดการขึ้น กลยุทธ์ยังเลือกหุ้นที่มีโอกาสตกเป็นเป้าหมาย Window Dressing ช่วงปลาย 1Q68 วันนี้เลือก CPN และยังชอบ HMPRO

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวได้ต่อ นำโดย NASDAQ +2.3% S&P +1.8% Dow Jones +1.4% จากความกังวลต่อการใช้ภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯลดลง หลังคุณทรัมป์เผยว่าในบางประเทศจะได้รับการยกเว้น จากภาษีตอบโต้ที่จะเริ่มในวันที่ 2 เม.ย. แต่อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นภาษียานยนต์จะมีการประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การขึ้นภาษีเซมิคอนดักเตอร์และยายังวางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีต่อไป นอกจากนี้ประกาศเก็บภาษี 25% กับประเทศที่มีการนำเข้าน้ำมันจากเวเนซุเอลาเริ่ม 2 เม.ย.68 ประเมินระยะสั้นสร้าง Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ (CCET HANA) กลุ่มส่งออกอาหาร (CPF TU) กลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น 1.6% (PTTEP SPRC BCP)

สำหรับปัจจัยในประเทศ ขาดปัจจัยใหม่สนับสนุนเนื่องจากอยู่ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ซึ่งจะมีต่อในวันนี้และ ส.ส. จะลงมติในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.) ซึ่งเราคงมุมมองเดิมว่าผลการลงมติไม่น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนายกฯ และรัฐบาลแต่อย่างใด เนื่องจากเสียงรัฐบาลปัจจุบันที่มากกว่าฝ่ายค้านอย่างมาก (ส.ส. ปัจจุบัน 493 ราย เป็นขั้วฝั่งรัฐบาล 317 ราย และฝ่ายค้าน 176 เสียง)

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 3.5 จุด โดยหุ้นกลุ่มที่ปรับขึ้นเด่น หุ้นที่เราคาดว่าจะถูกเป็นเป้าหมายของ Window Dressing นำโดย ADVANC +2.2% CPALL +2% CPN +1% BDMS +0.4% ตามด้วยกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจาก PTT +1.6% PTTEP +1.3% ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว ส่วนกลุ่มที่ปรับลงจะเป็นการขายทำกำไรกลุ่มที่ขึ้นเด่นเมื่อสัปดาห์ก่อนเช่น กลุ่มธนาคาร -0.3% กลุ่มส่งออก อิเล็คทรอนิกส์ DELTA -1% CCET -0.8% นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 469 ล้านบาท

DAILY Stock Pick
CPN
หลบเข้า Domestic ก่อนประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีสหรัฐ ในสัปดาห์หน้า
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79.00 บาท
CPN ประกาศเงินลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ระหว่างปี 68-72 โดยเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมระหว่างปี 68-70 รวมทั้งสิ้น 6 โครงการ อาทิ เช่น The Central (พหลโยธิน), Central khonkaen campus ส่งผลให้มีพื้นที่เช่าทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 2.8 ล้านตร.ม. ในปี 72 จาก 2.3 ล้านตร.ม. ในปี 67 ส่วนธุรกิจอื่นยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่องจากทั้ง โรงแรม, อาคารสำนักงานให้เช่า, อสังหาริมทรัพย์ จนถึงปี 72
เราชอบ CPN เนื่องจากคาดกำไรตั้งแต่ปี 67-69 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) +8% มากกว่า 2% มาจากโครงการใหม่ที่เปิดตั้งแต่ปี 69 เป็นต้นไป (ยังไม่รวมโครงการใหม่เพิ่มเติมในประมาณการของเรา) ในเชิงประเมินมูลค่า CPN ซื้อขายที่ PE68 ที่ 12 เท่า (-1.8SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) พร้อมกับคาดการณ์เงินปันผลปี 68 ที่ 4.7%

HMPRO
เป้าหมาย Window Dressing ปันผลสูง ชะลอ Downside
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10.20 บาท
เราคาดว่า SSSG ฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ ขณะที่การเร่งขยายสาขาจะช่วยหนุนการเติบโตของยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้นคงอยู่ในระดับสูง โดยเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่ม private label หนุนให้กำไรปี 68 เติบโต 5%YoY ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น PE68 14.8 เท่า (-2SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น (คิดเป็นอัตราเงินปันผล 3%) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เม.ย. 68 ช่วยลด Downside ของราคาหุ้น

เราคาดว่า HMPRO เป็นเป้าหมายของกองทุนในการทำ Window Dressing ในสัปดาห์นี้ โดย กองทุนที่มีนโยบายลงทุนหุ้นไทย ถือ HMPRO ติด 30 หุ้นที่กองทุนที่มีนโยบายลงทุนหุ้นไทยถือ (เรียงตาม NAV) ถ้าพิจารณาเพิ่มเติม HMPRO ถูกซื้อขายที่ -2SD อยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับหุ้น 30 ตัวแรกที่กองทุนที่มีนโยบายลงทุนหุ้นไทยถือ

KEY FACTOR
Flash PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯ พลิกกลับมาต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาสะท้อนภาพภาคการผลิตที่อ่อนแอ ดัชนี S&P Global PMI เดือน มี.ค. 1) ภาคการผลิต 49.8 ต่ำกว่าที่ Consensus คาด 51.7 และพลิกต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน 2) ภาคบริการ 54.3 สูงกว่าที่ Consensus คาด 51 ส่วน HCOB PMI เดือน มี.ค. ของ Eurozone 1) ภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 48.7 ใกล้เคียงกับ Consensus คาด 48.2 2) ภาคบริการอยู่ที่ 50.4 ต่ำกว่า Consensus คาด 51.1 ถือว่าขยายตัวได้ใกล้เคียงคาด

สถานการณ์สงครามการค้าในระยะสั้นที่แม้จะใกล้ถึงกำหนด การใช้ภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 2 เม.ย. แต่ถือว่าผ่อนคลายลง ทั้งจากการส่งสัญญาณของทรัมป์ที่ยืดหยุ่น ผสานกับจีนเองที่พบปะพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทสหรัฐฯ (อาทิเช่น Qualcomm, Pfizer, Cargill และ Boeing) เพื่อยืนยันว่าจะเน้นการเจรจาและการร่วมมือทางเศรษฐกิจมากกว่าการเผชิญหน้า

EYES ON
ในสัปดาห์ : สถานการณ์สงครามการค้าก่อนสหรัฐฯ ขึ้นภาษีตอบโต้
25 มี.ค. : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ
28 มี.ค. : ดัชนี PCE เดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ

- Advertisement -