บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 26/03/68
สรุปภาวะตลาดวันก่อน
ต่างชาติขายหนัก – SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบแคบ 1181-91 และปิดลบเล็กน้อย ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่ยังเบาบาง 3.07 หมื่นลบ. มีแรงขายหุ้นกลุ่ม TOURISM และ COMM จากการชะลอตัวของนทท.จีน แต่หุ้นกลุ่ม ENERG ช่วยพยุงตลาดตามราคาน้ำมันปรับขึ้น ต่างชาติขายสุทธิ 2.75 พันลบ. และ Short S50 Futures 3,360 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้
หุ้นโลกวันก่อน (25 มี.ค.)
ปรับขึ้น – หุ้นยุโรปรีบาวด์จากความหวังการขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ 2 เม.ย. นี้น่าจะเบากว่าที่กังวลไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายทั้งแดนบวกและลบสลับกัน หลังดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด แต่ยังมีความหวังว่าทรัมป์จะยืดหยุ่นการขึ้นภาษีตอบโต้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัว -11 เซนต์ หลังมีรายงานข่าวว่ารัสเซีย-ยูเครนตกลงหยุดยิงในทะเลดำและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
แนวโน้มตลาดวันนี้
ไซด์เวย์ – ปัจจัยการเมืองคลายตัวลงหลังผ่านพ้นอภิปรายแล้ว คาดการลงมติวันนี้นายกฯ แพทองธารได้รับเสียงสนับสนุนฉลุย และการซื้อหุ้นคืนยังช่วยพยุงทิศทางตลาดแม้ไม่มีปัจจัยบวกใหม่หนุนมากนัก และทิศทางเงินตปท.ยังเป็นลบ ล่าสุด HMPRO ประกาศซื้อหุ้นคืนต่อจาก PTT ในช่วงก่อนหน้านี้ แนวรับ 1180 แนวต้าน 1200
กลยุทธ์การลงทุน
เลือกเทรดดิ้งสั้น, ลงทุนถือต่อ – หากรับความเสี่ยงได้ อาจใช้กรอบ 1160-1250 ในการเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย เน้นการตั้งรับ, พอร์ตลงทุนถือทนแกว่ง
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ : หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ AP, BEM / หุ้นเด่น มี.ค. AMATA, BDMS, HMPRO, KTB, MINT, PTT, SPALI และทางเลือกลงทุนหุ้นตปท.ผ่าน DR แนะนำ HK01, PINGAN80 / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing เด่น SET50 – AWC, BEM, CBG, GPSC, HMPRO / SET100 – AEONTS, AMATA, AP, CKP, PR9, SJWD / หุ้นปันผลน่าสะสม AP, DMT, ICHI, KTB, MEGA, PTT, SPALI, TASCO
หุ้นบลูชิพมี ESG Rating รับอานิสงส์ TESGX ADVANC, AOT, BDMS, CPALL, PTT, SCB / หุ้นปันผลที่ให้ Yield งวดนี้ > 3% คำแนะนำ “ซื้อ” AAI, AP, AU, CKP, CPN, EGCO, EKH, HMPRO, III, KTB, LH, MENA, NEO, NKT, PRM, SABINA, SIRI, SJWD, SPALI, SYNEX, TVO / หุ้นที่ผ่านเกณฑ์มีโอกาสซื้อหุ้นคืน EASON, HFT, IRC, METCO, RSP, SPALI (เคยซื้อหุ้นคืน) / DTCENT, GFPT, HARN, IRCP, KWM, RCL, SAT, SE, SK, THIP (ไม่เคยซื้อหุ้นคืน)
หุ้นแนะนำประจำวัน
EGCO – เรามองภาพรวมหุ้นโรงไฟฟ้าที่ถูก De-rating ใกล้จบแล้วหลังระดับมูลค่าหุ้นถูกลงมาก ตลาดกังวลการลดค่าไฟฟ้าเกินเหตุและบางส่วนจะถูกชดเชยด้วยต้นทุนก๊าซที่ลดลง, PER / PBV ปีนี้ที่ 5.5x / 0.5x และมีปันผลราวปีละ 7%, เป้าพื้นฐานใหม่ 123 บ.