เที่ยวไทยปรับกลยุทธ์ จับเทรนด์โลก ดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ด้านอินฟอร์มาแนะผู้ประกอบการตามติดพฤติกรรม พร้อมรับนักท่องเที่ยวเพิ่ม ล่าสุดเตรียมจัด Food & Hospitality Thailand 2025 ร่วม 2 งานยักษ์ของเอเชีย

เที่ยวไทยปี 68 เร่งเครื่องปรับกลยุทธ์จับกระแสโลก ใช้จุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ พร้อมดันนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 40 ล้านคน ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย แนะผู้ประกอบการตามติดพฤติกรรมนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ สร้างโอกาสจับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เพิ่ม ล่าสุดเตรียมจัดงาน Food & Hospitality Thailand (FHT) 2025 พร้อม 2 งานยักษ์ของเอเชีย Hotel & Shop Plus Thailand และ HOTELEX Thailand

นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand (FHT) 2025 กล่าวถึงทิศทางธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมว่า ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่อง โดย ททท. มีการตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 อยู่ที่ 38-40 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมล่าสุด (17 มี.ค. 2568) อยู่ที่ 8,296,377 คน สร้างรายได้แล้วประมาณ 405,946 ล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีใต้ และยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวโลก ทำให้มีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่จากประเทศต่างๆ เดินทางมาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้นภาครัฐยังมีการออกมาตรการกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ทั้งเปิดฟรีวีซ่า การนำเสนอการท่องเที่ยวที่เป็นกระแสของโลก อาทิ Workation, Digital Nomad, Wellness Tourism, Eco-Tourism, Experiential Travel, Adventure Tourism, Gastrainable Tourism ฯลฯ รวมถึงขับเคลื่อนเมืองน่าเที่ยว ท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค Must Do In Thailand และการกระตุ้นท่องเที่ยวในแคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” ทำให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 476,000 คน เพิ่มขึ้น 3% สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 7,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5%

ดังนั้นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สปา ธุรกิจบริการ ฯลฯ จำเป็นต้องติดตามแนวโน้มและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่มีความเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งงาน FHT ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีถือเป็นงานสำคันของผู้อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารและบริการ โดยความสำเร็จในปีที่ผ่านมา (FHT 2024) มีผู้เข้าร่วมจัดแสดงงานกว่า 357 ราย จาก 16 ประเทศ มีผู้ประกอบการและผู้เข้าเยี่ยมชมงานถึง 28,669 คน จาก 61 ประเทศ

สำหรับ FHT 2025 เป็นอีกครั้งของการจัดงานที่ได้รับความสนใจจากบริษัทชั้นนำของโลก ที่พร้อมนำผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบอาหารและเครื่องดื่ม นวัตกรรมเทคโนโลยีและโซลูชันที่ทันสมัยล่าสุดสำหรับการบริการและการดำเนินธุรกิจมาร่วมจัดแสดง ส่วนแนวคิดในการจัดงานฯ ครั้งนี้ คือ “Connecting Excellence in Food & Hospitality” เชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญและนวัตกรรมจากทุกมุมโลก เพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมอาหารและการบริการอย่างยั่งยืน ภายในงานประกอบด้วย 8 โซนแสดงสินค้า ได้แก่ Food & Drinks, Cafe & Bakery, Shop & Retail, Sips & Spirits, Foodservice Equipment, Hospitality Technology, Hospitality Style และ Cleaning Supplies & Equipment พร้อมการจัดกิจกรรมการประชุม สัมมนา เวิร์กชอป การแข่งขัน ฯลฯ

นอกจากนั้นในปีนี้ยังเป็นการร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับ 2 งานใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย ที่มาจัดงานร่วมกันทั้ง Hotel & Shop Plus Thailand (HSPT) งานแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์และโซลูชันโรงแรมอัจฉริยะ สิ่งอำนวยความสะดวก การทำความสะอาด การออกแบบตกแต่งอาคาร โรงแรมและพื้นที่เชิงพาณิชย์ และ HOTELEX Thailand (HOT) งานที่นำเสนอโซลูชันของภาคธุรกิจโรงแรมและการจัดเลี้ยง โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงอุปกรณ์ครัว บรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์การบริการ ฯลฯ โดยปีนี้มีโซนใหม่ที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ด้านพันธมิตรที่สนับสนุนและร่วมจัดงาน FHT 2025 นั้น ยังคงได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกว่า 20 องค์กร ทั้งภาครัฐ องค์กรเอกชนและสมาคมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมเชฟประเทศไทย สมาคมค้าปลีกไทย ฯลฯ และพันธมิตรใหม่อย่าง สมาคมสปาไทย ซึ่งจะมาร่วมจัดงานเป็นครั้งแรกเพื่อแสดงถึงความสำคัญและความสำเร็จของสปาไทย พร้อมถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์และกิจกรรมที่น่าสนใจในงาน FHT2025 ที่กำลังจะเกิดขึ้น

สำหรับงาน Food & Hospitality Thailand (FHT) 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2025 ชั้น G ฮอลล์ 1-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

- Advertisement -