KS Daily View 31.03.2025 >>> ตลาดหุ้นทั่วโลก Risk off จากแผ่นดินไหว/ ระมัดระวัง Reciprocal tariffs มองกรอบ SET วันนี้ 1,130 – 1,150 จุด แนะนำ AURA, BDMS
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,130-1,190 จุด โดยแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง และมีปัจจัยลบใหม่คือแผ่นดินไหวรุนแรงในพม่าที่ส่งผลกระทบมายังไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ทำให้ฐานเดิมที่ SET index สร้างไว้ที่ 1,150-1,160 จุด ไม่น่าจะรับอยู่ได้ในสัปดาห์นี้กลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบมากที่สุดคือกลุ่มอสังหาฯ (ANAN ORI AP SPALI SIRI) จากความกังวลต่อความปลอดภัยของคอนโดมิเนียม ทำให้อุปสงค์การซื้อมีแนวโน้มลดลง กลุ่มประกัน (TIPH BKIH THRE) อาจมีค่าชดเชยความเสียหาย กลุ่มรับเหมา (ITD STECON CK) ได้รับผลกระทบเชิงจิตวิทยาจากเหตุตึก สตง. ถล่ม และกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW MINT AOT) แม้จะได้ประโยชน์จากผู้พักอาศัยในคอนโดที่ต้องไปพักโรงแรม แต่ความกังวลของนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจส่งผลลบมากกว่า ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์คือกลุ่มค้าปลีก (HMPRO GLOBAL DOHOME) จากยอดขายวัสดุก่อสร้างและสินค้าสำหรับซ่อมแซมที่อยู่อาศัย
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงจาก Sentiment เชิงลบทั้งจากปัจจัยต่างประเทศที่สหรัฐฯ รายงานตัวเลข Core PCE เร่งตัวขึ้นจาก 2.7% เป็น 2.8% ทำให้มีความกังวล Stagflation และเรื่อง Reciprocal tariffs ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งหากปรับขึ้นไม่เกิน 10% ตลาดอาจตอบรับเชิงลบไม่มาก แต่หากสูงถึง 25% หรือมากกว่า จะส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องแผ่นดินไหวอีกด้วย สำหรับหุ้นแนะนำในสัปดาห์นี้เป็น AURA, HMPRO, BDMS, PTT, OR
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1. ธนาคารกรุงไทยได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว โดยมีมาตรการหลัก 2 ส่วน คือ มาตรการแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อปัจจุบัน และมาตรการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการและซ่อมบ้าน สำหรับสินเชื่อบ้านและธุรกิจ SSME จะได้รับการลดค่างวด 75% นาน 1 ปี พร้อมดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก และ 2.5% อีก 33 เดือน ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลได้รับการลดค่างวด 75% นาน 1 ปี และดอกเบี้ย 4.5% นาน 3 ปี ขณะที่สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมจะมีดอกเบี้ยพิเศษตามประเภทสินเชื่อ
2. กระทรวงการคลังเตรียมเสนอโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 สำหรับประชาชนอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน เข้าครม. เร็วๆ นี้ โดยยังคงจ่ายเงิน 10,000 บาทผ่านแอป “ทางรัฐ” หรือระบบ Open Loop ของสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการ ระบบได้ผ่านการทดสอบแล้วสามารถรองรับได้ถึง 10,000 ธุรกรรมต่อวินาที ส่วนเฟส 4 สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนในแอป “ทางรัฐ” กลุ่มที่เหลือจะได้รับเงินไม่เกินเดือนกันยายน 2568 แม้ว่าจะมีข้อสังเกตเรื่องงบประมาณที่อาจขาดเล็กน้อย แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะสามารถบริหารจัดการให้ทุกคนได้รับเงินครบ 10,000 บาท
3. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ที่ระดับ 57 จาก 64.7 ในเดือนก่อน ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวพุ่งสูงสุดในรอบ 32 ปีที่ 4.1% เนื่องจากความกังวลเรื่องนโยบายภาษีของทรัมป์ สองในสามของผู้บริโภคคาดว่าการว่างงานจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009 และคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของรายได้เพียง 0.4% ในปีหน้า ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013 หากไม่นับช่วงโควิด-19
4. ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดรับการเจรจาเพื่อลดภาษีนำเข้าที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า แต่คาดว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นหลังจากประกาศขึ้นภาษีแล้ว โดยเชื่อว่าสหรัฐฯ ถูกเอาเปรียบมานานกว่า 40 ปี ทรัมป์จะประกาศแผนภาษีตอบโต้ในวันที่ 2 เมษายน และจะประกาศภาษีนำเข้ายาและเวชภัณฑ์ในเร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นให้บริษัทยานำการผลิตกลับมาในสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องอัตราภาษีและการยกเว้นสำหรับยาที่จำเป็นต่อชีวิต
5. ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับ NBC News ระบุว่าไม่สนใจหากบริษัทรถยนต์ต่างชาติจะขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากการเก็บภาษีนำเข้า 25% เพราะเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนหันมาซื้อรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ มากขึ้น โดยยืนยันว่าจะเก็บภาษีนี้อย่างถาวร นอกจากนี้ ทรัมป์ยังปฏิเสธที่จะปลดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การเปิดเผยแผนโจมตีกลุ่มฮูตีในแอป Signal และยืนยันว่าจะผนวกกรีนแลนด์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ โดยไม่ตัดทางเลือกการใช้กำลังทหาร
Daily pick
AURA : ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ AURA จากราคาทองคำที่ขึ้นเหนือ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความเสี่ยง reciprocal tariff ในวันที่ 2 เมษานี้ ช่วยสร้างกำไรจากส่วนต่างธุรกิจ modern gold บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสาขาเป็น 644 แห่งในปี 2568 (เติบโต 32%) พร้อมเพิ่มพอร์ตสินเชื่อทองคำเป็น 6,500 ล้านบาท และตั้งเป้ากำไรสุทธิโต 20-30% AURA เตรียมขึ้นค่ากำเหน็จทองสูงสุด 300 บาทต่อบาททองในไตรมาส 2/2568 มีแผนขยายเพดานหนี้จาก 2 เท่าเป็น 2.5 เท่า พร้อมออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่องในการขยายสาขา และยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากมีสัดส่วนเงินกู้แบบอัตราลอยตัวถึง 98%
BDMS: ราคาพื้นฐาน 29.40 บาท
เราชอบ BDMS สำหรับ Defensive play ในฐานะเครือข่ายโรงพยาบาลที่แข็งแกร่งที่สุดในไทย ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ -1SD ซึ่งเกิดขึ้นเพียงสามครั้งตั้งแต่ปี 2553 เราคาดว่า BDMS จะรักษาโมเมนตัมการเติบโตแข็งแกร่งได้จนถึงปี 2568 โดยเฉพาะในไตรมาส 1 ซึ่งรายได้มีแนวโน้มเกินเป้าฝ่ายบริหารที่ 7-8% สำหรับครึ่งแรกของปี จากการประเมินของเรา BDMS มีแนวโน้มเติบโตอย่างน้อย 8% ในสองเดือนแรกของปี 2568 ทำให้เป็นหนึ่งในสองโรงพยาบาลจาก PR9 ที่แสดงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ติดตามรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (China NBS PMI) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.4 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 50.2 จุด ต่อด้วยการรายงานดัชนีธุรกิจภาคการผลิตของธนาคารกลางรัฐดัลลาสในสหรัฐ (Dallas Fed Manufacturing Index) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -5 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -8.3 จุด
วันอังคาร ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (China Caixin Manufacturing PMI) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.8 จุดทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ต่อการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งแรก (EU CPI) เดือน มี.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ 2.30% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่สหรัฐมีการายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (US ISM Manufacturing PMI) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.8 จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.3 จุด และปิดท้ายด้วยตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (US JOLTS Job Openings) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 7.69 ล้านตำแหน่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.74 ล้านตำแหน่ง
วันพุธ ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ภาคการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ประกาศโดย Automatic Data Processing (ADP Non-Farm Employment Change) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.18 แสนตำแหน่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.77 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน (US Factory Orders) ในสหรัฐ เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ +0.5% MoM ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +1.7% MoM
วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีน (Caixin Services PMI) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.6 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 51.4 จุด ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐ (ISM Services PMI) ) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 53.2 จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 53.5 จุด
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน มี.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.08% YoY และเงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (TH Core CPI) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.99% YoY ต่อด้วยการรายงานเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐ ภาคจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.20 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.51 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.1%