YLG ปรับเป้าหมายทองคำ 3,200 ดอลลาร์ แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หนุนต่อเนื่อง ระยะสั้นจับตาทรัมป์ประกาศแผนภาษีตอบโต้

  • วายแอลจีชี้ ราคาทองคำยังมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง แม้จะปรับตัวขึ้นมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 3,150 – 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ทองคำแท่งของไทยชนเป้า 50,000 บาทต่อบาททองคำ ขยับเป้าหมายเป็น 51,000 – 51,500 บาทต่อบาททองคำ
  • เปิดปัจจัยหนุนทองให้ราคาเป็นขาขึ้นอย่างแข็งแกร่ง มาจากความเป็น Safe Haven โดยเฉพาะความกังวล Trade War ทั่วโลก จากนโยบายภาษีตอบโต้ของทรัมป์ ที่กำลังจะประกาศในวันที่ 2 เมษายนนี้ พร้อมด้วยปัจจัยหนุนสำคัญยังอยู่ครบ ทั้งธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำต่อเนื่อง, ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังน่าเป็นห่วง และ SPDR เดินหน้าตุนทองคำ YTD +59.42 ตัน
  • แนะหน้าใหม่เงินทุนต่ำลงทุนทองคำผ่าน Gold Wallet บนแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ซื้อทองเริ่มต้นเพียง 1 ออนซ์ และแอป Get Gold โดย YLG สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เริ่มต้นเพียง 100 บ. สามารถเทรดเพื่อเก็งกำไร และลงทุนแบบ DCA 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทะลุเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้ที่ 3,000-3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  ล่าสุดวายแอลจี จึงได้ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 3,150-3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  หรือคิดเป็นราคาเป้าหมายทองคำแท่งไทยที่ 51,000-51,500 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณจากค่าเงินบาท 34 บาทต่อดอลลาร์) โดยระยะสั้นราคาทองคำได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากความกังวล “นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff)” ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมประกาศในวันที่ 2 เมษายนนี้  ในขณะที่หลายประเทศได้ส่งสัญญาณตอบโต้คืนเช่นกัน อาทิ สื่อของรัฐบาลจีน โพสต์ข้อความ “หากสหรัฐฯ ตั้งใจทำลายผลประโยชน์ของจีน จะตอบโต้อย่างเด็ดขาด”  เช่นเดียวกับทางด้านคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศ “จะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้แบบครอบคลุม ในวันที่ 3 เมษายน”  ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดการปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนบางส่วนจึงได้นำเงินลงทุนมาพักไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำ และรวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐด้วยเช่นกัน  อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงในวันประกาศแผนภาษีดังกล่าว อาจต้องระมัดระวังการถูกขายทำกำไร หรือการ Sell on fact สลับออกมาด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกันปัจจัยบวกด้านอื่น ๆ ที่สนับสนุนทองคำในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง ทั้งการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงการเข้าซื้อทองคำของกองทุน ETF ทองคำขนาดใหญ่ในปีนี้ โดยเฉพาะ “SPDR Gold Shares” ที่กลับมาเข้าซื้อต่อเนื่องในปี 2568 รวมแล้วมากถึง +59.42 ตัน  รวมถึงความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ตะวันออกกลางที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ล่าสุด ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ขู่ทางอิหร่านว่าจะทำการทิ้งระเบิดและใช้มาตรการภาษีรอง (Secondary tariff) หากอิหร่านไม่ยอมบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของทองคำในปีนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบไม่มีสลับพักฐาน จึงอาจทำให้มีข้อจำกัดในการปรับขึ้นต่อ แต่ยังเห็นว่าราคาทองคำยังเดินหน้าสู่ทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้นยังคงแข็งแกร่ง สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ควรรอให้ราคาย่อลงที่แนวรับ 3,074-3,055 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่หากหลุดบริเวณดังกล่าวแนะนำให้ระมัดระวังการพักฐานลงในระยะกลาง  ส่วนทองไทยแนะนำเข้าซื้อได้ที่ 49,400-49,000 บาทต่อบาททองคำ

อย่างไรก็ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำแต่มีเงินลงทุนเริ่มต้นจำกัด YLG ได้เปิดให้บริการ Gold Wallet บริการซื้อขายทองคำแท่ง 99.99% ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ด้วยราคาเรียลไทม์ ซื้อขายทองต่อครั้งด้วยขั้นต่ำ 0.1 ออนซ์ สูงสุดแบบเต็มเพดาน ได้สูงสุดถึง 700 ออนซ์ หรือ 20 กิโลกรัม พบว่ากลุ่มนักลงทุนอายุต่ำกว่า 30 ปี เริ่มเข้ามาลงทุนมากเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่มอายุ 30 – 40 ปี และอันดับ 3 คือ กลุ่มอายุ 50 – 60 ปี ส่วนอายุ 60 ปีขึ้นไป จะลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่นน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่นิยมลงทุนกับทองคำแท่งที่จับต้องได้มากกว่าการซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น

สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการลงทุนระยะยาวนั้นแนะนำสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการสะสมทอง และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย สำหรับนักลงทุนมือใหม่วายแอลจีแนะนำแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ที่วายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ App Store และ Play Store หรือ LINE : @ylggetgold โทร. 0-2678-9888 #2

- Advertisement -