บล.กสิกรไทย: 

Ground Transportation Sector : จราจรทางรถไฟโต YoY ทางด่วนทรงตัว

มีอะไรใหม่?

  • ประการแรก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีแผนเสนอที่ประชุม ครม. ให้พิจารณาโครงการรถไฟฟ้า SRT สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา ซึ่งมีมูลค่ารวม 1.5 หมื่นลบ. ในเดือนเม.ย. 2568 โดยคาดว่าจะเปิดประมูลในเดือนพ.ค. 2568 และเริ่มก่อสร้างในเดือนม.ค. 2569 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี
  • ประการที่สอง การรถไฟแห่งประเทศไทย (SRT) มีกำหนดหารือเกี่ยวกับการแก้ไขข้อตกลงร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกับ Asia Era One ในวันที่ 13 มี.ค. 2568 และคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในเดือนพ.ค. 2568 โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมิ.ย. 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี
  • อัปเดตการจราจร ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT และ BTS ในเดือนก.พ. 2568 มีการเติบโตทั้ง MoM และ YoY ขณะที่ปริมาณจราจรบนทางด่วนทรงตัว YoY BEM รายงานปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันบนทางด่วนอยู่ที่ 1.13 ล้านเที่ยว (-0.6% YoY, +2.1% MoM คิดเป็น 90% ของเดือนก.พ. 2562 และต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 1.8%) และปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของ MRT สายสีน้ำเงินอยู่ที่ 461,200 เที่ยว (+2.8% YoY, +3.1% MoM คิดเป็น 143% ของปี 2562 แต่ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 2.6%) ด้าน BTSGIF รายงานปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของ BTS สายสีเขียวหลักอยู่ที่ 589,300 เที่ยว (+3.6% YoY, +6.6% MoM คิดเป็น 87% ของปี 2562 และต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 4.6%) ตามข้อมูลของกระทรวงคมนาคม ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของ MRT สายสีเหลืองอยู่ที่ 45,300 เที่ยว (+21.4% YoY, +9% MoM) และ MRT สายสีชมพูอยู่ที่ 61,800 เที่ยว (+24.8% YoY, +8% MoM)
  • มุมมองของเรา ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ ปริมาณผู้โดยสาร MRT สายสีน้ำเงินต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 1.3% BTS สายสีเขียวหลักต่ำกว่าประมาณการ 3.6% และปริมาณการจราจรบนทางด่วนของ BEM ต่ำกว่าประมาณการ 2.2% ดังนั้น เรามองว่ามีความเสี่ยงขาลงเล็กน้อยต่อประมาณการปริมาณการจราจรของเรา สำหรับแนวโน้มปี 2568 เราคาดว่าปริมาณผู้โดยสาร MRT สายสีน้ำเงินจะเติบโตระดับกลางที่ 5.1% YoY และปริมาณผู้โดยสาร BTS สายสีเขียวหลักจะเติบโต 6.7% โดยการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารระบบรางทั้งสองสายจะได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวโครงการพัฒนาใหม่ตามแนวเส้นทาง และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 5.6% YoY (ตามข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย) สำหรับปริมาณจราจรบนทางด่วนของ BEM เราคาดว่าจะทรงตัว YoY ในปี 2568 เนื่องจากได้รับแรงกดดันระยะสั้นจากโครงการก่อสร้างใกล้ทางขึ้นทางด่วน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
  • ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ในเชิง YTD ราคาหุ้นของ BEM ปรับลดลง 22.5% TFFIF ลดลง 3.1% BTS ลดลง 8.1% และ BTSGIF ลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับดัชนี SET ที่ลดลง 15.9% เมื่อพิจารณาสัดส่วนมูลค่ากิจการ (EV) ปัจจุบันเทียบกับมูลค่ากิจการในปี 2562 คาดว่า EV ปี 2568 ของ BEM/BTS/BTSGIF/TFFIF จะอยู่ที่ 67%/126%/27%/50% ขณะที่ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 2568 ของแต่ละบริษัทณ คาดว่าจะอยู่ที่ 101%/63%/105%/106%
  • มุมมองเชิงบวก เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มขนส่งทางบก ปัจจัยบวกที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การเริ่มใช้นโยบายค่าโดยสารคงที่ 20 บาทในเดือนต.ค. การเปิดโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เฟส 2 ในไตรมาส 3/2568 ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโต 5.6% YoY ในปี 2568 และการเปิดส่วนต่อขยายของ MRT สายสีชมพูในช่วงกลางปี 2568

หุ้นเด่น

  • BEM “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.85 บาท

- Advertisement -