บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
(-) กลุ่มยานยนต์และกลุ่มเหล็ก ได้รับผลลบจากภาษี Trump เช่นกัน แต่ Market cap ของ 2 sector นี้รวมกัน 0.7% สองกลุ่มนี้จึงผลจำกัดมากต่อ SET
- อุตสาหกรรมเหล็กของไทยมีมาตรการ AD (Anti-dumping) เพื่อปกป้องผู้ผลิตเหล็กในไทย เนื่องจากไทยไม่มีต้นน้ำ เราต้องนำเข้าเหล็กเข้ามาแปรรูปต่อ จึงเสียเปรียบด้านต้นทุน จึงมีมาตรการ AD มาตั้งแต่ปี 2002
- แม้จะมี AD แต่เราก็ยังต้อพึ่งพาเหล็กนำเข้า ทำให้ผู้ใช้ต้องรับภาษีส่วนเพิ่ม
- เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2025 สหรัฐขึ้นภาษีรอบแรกกับกลุ่มเหล็กและอลูมิเนียมของไทยไปแล้ว โดยเหล็กขึ้นจาก 0-12.5% เป็น 25% อลูมิเนียมจาก 0-6.25% เป็น 25% ส่วนยานยนต์และชิ้นส่วน ขึ้นจาก 0-4.9% เป็น 25% (มีผล 3 เม.ย.)
- แต่เนื่องจากสหรัฐขึ้นภาษีกับประเทศคู่แข่งเราด้วย ไทยจึงไม่ได้เสียเปรียบคู่แข่ง แต่จะส่งออกได้น้อยลง
- อุตสาหกรรมเหล็กมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ มีมูลค่าราว 3-4 แสนลบ. สร้างแรงงานกว่า 1 แสนคน (0.3% ของตลาดแรงงานทั้งหมด)
- แต่หุ้นในกลุ่มเหล็กปี 2024 มีรายได้รวม 1.1 พันลบ. EBITDA -4.3 พันลบ. ขาดทุนสุทธิ 8.8 พันลบ. มีหรือไม่มี Reciprocal tariffs หุ้นกลุ่มเหล็กก็อยู่ในสถานการณ์ลำบาก เช่นเดียวกับกลุ่ม Auto ที่ถูกกระทบจากกำลังซื้อตกต่ำมา 2 ปี