บล.ฟิลลิป:
กลุ่มท่องเที่ยว : ภาษี ‘ทรัมป์’ กดดันตลาดท่องเที่ยวไทยต่อ (ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ)
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สทท.) ระบุผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน 1Q68 อยู่ในระดับ 83 ซึ่งต่ำกว่าระดับปกติ (100) บวกกับปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นระลอก นับตั้งแต่ประเด็นเรื่องความไม่ปลอดภัย, แผ่นดินไหว และปัญหาเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของทรัมป์ ทำให้หลายฝ่ายต่างวิตกกังวลว่าปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จะส่งผลต่อบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
- ฝั่งนายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) มองว่า นโยบายกีดกันทางการค้าผ่านการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน รวมถึงบรรยากาศในการใช้จ่ายทั่วไป ทั้งนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ที่อาจต้องคิดว่าควรต้องเก็บเงินสดไว้มากขึ้น และกังวลเรื่องเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนี้ THA เผยว่าการที่รัฐบาลไทยเตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านโครงการเที่ยวคนละครึ่งถือว่ามาถูกทางแล้ว เพียงแต่จะต้องออกนโยบายให้ถูกจังหวะ โดยสถานการณ์ตอนนี้ยังคงมีผลกระทบความกังวลจากประเด็นเชิงลบต่าง ๆ ทั้งนี้ THA คาดปี 2568 ไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติใกล้เคียงกับปี 2567 หรือราว 35 ล้านคน
- ทางฝ่ายมองว่าหุ้นกลุ่ม รร ยังคงมีปัจจัยกดดันระยะสั้น จากประเด็นเรื่องความไม่ปลอดภัย, แผ่นดินไหว และปัญหาเศรษฐกิจระดับโลก ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของทรัมป์ โดยในระยะสั้น ทางฝ่ายแนะนำให้ Wait & See เพื่อรอการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่ม รร. สำหรับการลงทุนระยะยาวทางฝ่ายยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ CENTEL หนุนจากมีแนวโน้มรับประโยชน์จากโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” ของรัฐบาล ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วง 2Q68 ซึ่ง CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากประเทศไทยราว 80% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม รวมถึงปัจจัยบวกจากการเปิดโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์เพิ่มเติม และรายได้จากธุรกิจร้านอาหาร ทางฝ่ายคาดเร่งตัวขึ้น y-y หนุนจากการขยายสาขาของแบรนด์หลักและการขยายแบรนด์ใหม่
- CENTEL ราคาพื้นฐาน 37.75 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”