บล.กรุงศรีฯ:

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index เพิ่มขึ้น 45.77 จุด (+4.21%) ปิดที่ระดับ 1,133.95 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.01 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 490 บริษัท, หุ้นปรับลง 72 บริษัท) ตอบรับประเด็นบวกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลดภาษีนำเข้าแบบเฉพาะประเทศลงชั่วคราว 90 วัน เหลือเป็นอัตราเดียวที่ 10% สำหรับทุกประเทศคู่ค้า ยกเว้นจีน โดยมีผลทันที Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ พลังงาน (GULF, PTT, PTTEP), อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA,KCE,HANNA), ธนาคาร (SCB, KBANK), และ ICT(TRUE,ADVANC) 

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

WHA +15.45% , AMATA +15.57%

หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น ตอบรับประเด็นบวก หลังประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติมจาก 104% เป็น 124% สถานการณ์นี้เพิ่มโอกาสในการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมฯ ที่มีศักยภาพในการรองรับการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI)

DELTA +15.42% KCE +6.67% HANA +8%

หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบเชิงลบจากประเด็น reciprocal tariffs และ Trade volume เริ่มฟื้นตัว สหรัฐประกาศเลื่อนเก็บภาษีเท่าเทียม (Reciprocal Tax) กับทุกประเทศที่ไม่ตอบโต้ภาษี 90 วัน โดยจะเก็บที่ 10% ยกเว้นจีน การคลายตัวของความขัดแย้งทางการค้าในระดับโลกทำให้ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) ลดลงอย่างมีนัยยะ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฟื้นตัวได้เด่นชัด

PTTEP +6.15%, PTT +0.82%

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง โดย Brent +4.23% d-d ปิดที่ 65.48 ดอลลาร์/บาร์เรล และ WTI +4.65% d-d ปิดที่ 62.35 ดอลลาร์/บาร์เรล สะท้อนดีมานด์พลังงานและน้ำมันที่กลับมา หลังความเสี่ยงทางการค้าคลี่คลายจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ถูกผ่อนปรน ส่งผลบวกต่อกลุ่มพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP และ PTT ซึ่งมีโครงสร้างรายได้ที่อิงกับราคาน้ำมัน (Oil-linked revenue structure)

GULF +8.88%, BGRIM +6.81%, GPSC +2.82%

หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับขึ้น ตอบรับมุมมองเชิงบวกต่อกระแสการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีพลังงาน (Infra Tech) ที่มีแนวโน้มเร่งตัวในระยะสั้น จากความกังวล เศรษฐกิจ Recession คลายลง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงยกเว้นมาตรการเก็บภาษี reciprocal tariffs สำหรับประเทศที่ไม่มีมาตรการตอบโต้ ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อต้นทุนและกระแสเงินลงทุนในโปรเจกต์พลังงานระยะยาว โดยเฉพาะโครงการที่มีการพึ่งพาเทคโนโลยีหรือการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ GULF, BGRIM และ GPSC จึงได้แรงหนุนทั้งจาก sentiment บวก และภาพระยะกลางที่ยังแข็งแกร่งจากการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง

AOT +6.90%

หุ้นกลุ่มที่ยัง Rebound ช้ากว่า SET ฟื้นตัวแรง อิง SET YTD (-22.3%) อิงเกณฑ์ปรับลดลงแรงกว่า SET + Beta สูง + RSI ทางเทคนิค 

KTB +7.08%, SCB +2.94%, KBANK +1.67%, BBL +3.35%

กลุ่มธนาคารเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวในเชิงบวก หลังความกังวลเกี่ยวกับ GDP ที่อาจเผชิญ downside risk จากสงครามการค้าลดลง เมื่อทรัมป์ประกาศชะลอมาตรการภาษี reciprocal tax โดยตรง นอกจากนี้ ความเสี่ยงต่อ loan growth ที่ต่ำกว่าคาดในช่วงก่อนหน้าก็เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่เร่งลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม กลายเป็นปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคาร 

- Advertisement -