บล.กรุงศรีฯ:

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index ลดลง 5.29 จุด (-0.47%) ปิดที่ระดับ 1,128.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.43 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 312 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 175 บริษัท) กังวล Tax war จีนกับสหรัฐกดดันเศรษฐกิจโลก ไทยขายลดเสี่ยงก่อนสงกรานต์ โดยมี Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน (GULF,PTTEP), กลุ่มtransport (AOT,BTS), และ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA,HANA,KCE) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, BJC, HMPRO) และ กลุ่ม ICT (ADVANC)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

PTTEP (-2.42%) มีจิตวิทยาลบราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลงกังวล Tax war จีนกับสหรัฐกระทบดีมานด์พลังงาน  ล่าสุด EIA ออกรายงานลดคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันดิบปีนี้และปีหน้าเหลือ 9 แสนบาร์เรลต่อวัน และ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมคาดว่าจะมีดีมานด์เพิ่มขึ้น 1.2 และ 1.2 ล้านบาร์เรลตามลำดับ

KTB (-0.44%), SCB (-0.82%), KBANK (-0.66%) ประเมินเป็นการขายของกลุ่มนักลงทุนที่ไม่ต้องการเงินปันผลจึงขายปรับพอร์ตก่อนที่ราคาหุ้นจะลดลงในวันขึ้นเครื่องหมาย XD โดย SCB จ่ายปันผล 2H24 ที่ 8.44 บาท (yield 6.9%) ขึ้น XD 16 เม.ย., KTB จ่ายปันผล 1.545 บาท (yield 6.8%) XD 16 เม.ย. และ KBANK จ่ายปันผล 8 บาท (yield 5.3%) XD 17 เม.ย.25 

AMATA (-5.67%), WHA (-8.45%), ROJNA (-3.63%) ความไม่แน่นอนจาก Tax war จะกดดัน FDI ชะลอลงทุน, ชะลอการซื้อที่ดินส่งผลให้แนวโน้มยอดขายที่ดินมี downside จากประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์ และ ประมาณการณ์ของผู้บริหาร

CPALL (+1.49%), BJC (+2.16%), HMPRO (+2.30%) เป็นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ผลบวกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากการจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้นจากการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชน นอกจากนี้ BJC และ CPALL เป็นอีก 2 บริษัทที่มีศักยภาพซื้อหุ้นคืนตามรอย HMPRO  

ADVANC (+1.43%) พื้นฐานเด่นกำไรสุทธิยังอยู่ในโหมดขาขึ้น ค่าใช้จ่ายลดลงจากการแข่งขันน้อยราย และมี Story ให้เก็งกำไรจากการเปิดประมูล 6 ย่านความถี่ในช่วง 2Q25 โดยสัปดาห์หน้า 18 เม.ย. กสทช. สรุปผลทำประชาพิจารณ์รอบที่ 2 ส่งบอร์ด กสทช.

BDMS (+0.43%) Defensive stock ผสานนักวิเคราะห์ของเราออก Paper เมื่อวันพุธที่ผ่านมาแนะนำให้ “ซื้อ” คาดกำไรสุทธิ 1Q25F มีโอกาสทำ All time high แม้จะมีผลกระทบจากเทศกาลรอมฏอน เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิประมาณ 4,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1% q-q และ 7%y-y

CPF (+1.41%) เป็นหุ้นส่งออกแต่ราคาหุ้นยืนแกร่งเพราะประเมินแล้วได้รับผลกระทบจาก Reciprocal tax จำกัด (มีสัดส่วนรายได้จาก US เพียง 0.2% จากการขายเกี๊ยวกุ้งเท่านั้น) ในขณะที่งบ 1Q25F นักวิเคราะห์ของเราประเมินโตเด่น คาดมีกำไรปกติ 6,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 เท่าตัวจาก 358 ล้านบาทใน 1Q24

- Advertisement -