KS Daily View 17 เม.ย. 2025>>> S&P 500 ปรับตัวลงแรงจากกลุ่มเทคหลัง Nvidia โดนข้อจำกัดการส่งออกไปจีนในชิปรุ่นลดสเปค และพาวเวลล์ส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย ด้านหุ้นไทย เราประเมินวันนี้ฟื้นตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,130 – 1,150 หลังค่าเงินบาทแข็งค่าแรง หุ้นแนะนำ GPSC, TIDLOR
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรง ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.24%, Nasdaq Composite ลดลง 3.07% และ Dow Jones ลดลง 1.73% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังจาก Nvidia เปิดเผยว่าได้รับผลกระทบจากคำสั่งห้ามส่งออกชิป H20 ไปจีน ซึ่งจะมีต้นทุน (Write-down) $5.5 bn จากการต้องตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ยังไม่ได้ส่งมอบ รวมถึงการที่ ASML รายงานยอดจองต่ำกว่าคาด แม้ตัวเลข Retail Sales จะออกมาดีกว่าคาด แต่ไม่สามารถพยุงตลาดขึ้นได้ เพราะแรงกดดันหลักมาจากความกังวลเรื่องภาษีและความไม่แน่นอนด้านการค้า อีกทั้ง WTO ยังออกมาลดคาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกในปี 2025 เหลือ -0.2% จากเดิมที่คาด +3% ขณะที่คำกล่าวของเจอโรม พาวเวลล์ ยิ่งซ้ำเติมความกังวล โดยระบุว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย จนกว่าสถานการณ์จะชัดเจนกว่านี้
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,138.90 จุด ปรับตัวขึ้นราว 10 จุด (+0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท รีบาวด์ตาม Sentiment ตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดีในช่วงวันหยุดสงกรานต์หลังทรัมป์มีท่าทีผ่อนคลายภาษีสินค้ากลุ่มเทค และชิ้นส่วนยานยนต์ในช่วงเวลาดังกล่าว และมีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดีกว่าคาด โดย GDP 1Q25 เติบโต 5.4% มากกว่าคาดที่ 5.2% ทำให้กลุ่ม China Related อย่างวัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ และปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นได้ดี รวมถึงกลุ่มโรงไฟฟ้า
เราประเมินวันนี้ตลาดน่าฟื้นตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,130 – 1,150 จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หุ้นแนะนำ GPSC, TIDLOR
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า นโยบายภาษีจากรัฐบาลทรัมป์ที่สูงเกินกว่าสถานการณ์ที่เฟดประเมินไว้ อาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะชะลอตัวพร้อมเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้เป้าหมายของเฟดด้านเงินเฟ้อและการจ้างงาน “สวนทางกัน” โดยพาวเวลล์ย้ำว่า “เฟด ยังอยู่ในจุดที่ยังรอความชัดเจนก่อนจะปรับนโยบาย” สร้างแรงกดดันต่อความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยในปีนี้
- ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์ที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคเร่งซื้อสินค้าก่อนที่ภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์สำเร็จรูปจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขึ้นในสินค้าอื่นๆ เช่น วัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์กีฬา และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตในจีนและกำลังจะถูกเก็บภาษี 145%
- จีนพร้อมที่จะเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ แต่ยังมีเงื่อนไขหลายประการที่จีนเรียกร้อง ได้แก่ การแสดงความเคารพมากขึ้นโดยควบคุมคำวิจารณ์จากคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ การมีจุดยืนที่สอดคล้องกัน และความเต็มใจที่จะแก้ไขข้อกังวลของจีนเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และประเด็นไต้หวัน นอกจากนี้ยังต้องการให้สหรัฐฯ แต่งตั้งผู้รับผิดชอบการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ เพื่อเตรียมข้อตกลงสำหรับการลงนามระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ
- นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง เปิดเผยว่าคณะผู้เจรจาไทยเตรียมเดินทางไปพบตัวแทนสหรัฐฯ หลังวันอีสเตอร์ (20 เม.ย.) เพื่อเจรจาผ่อนปรนภาษีนำเข้า 36% โดยไทยมีแนวทางสร้างสมดุลการค้าผ่านการเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและพลังงาน ซึ่งปตท.ได้ทำสัญญาซื้อก๊าซ LNG จากเท็กซัสมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี และก๊าซอีเทน 100 ล้านดอลลาร์ เริ่มจัดส่งปี 2569 พร้อมมีแผนนำเข้าเพิ่มอีก 1 ล้านตันในอนาคต เพื่อลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์หรือ 72%
- ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คัดเลือก 3 กลุ่มทุนใหญ่จากผู้ยื่นขอทั้งหมด 5 ราย เพื่อจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ได้แก่ 1) ธนาคารกรุงไทยและพันธมิตร Gulf, AIS และ OR 2) เอสซีบี เอกซ์ ร่วมกับ KakaoBank และ WeBank และ 3) แอสเซนด์ มันนี่ (ทรูมันนี่) ที่มี Ant Financial เป็นผู้ร่วมลงทุน โดยขั้นตอนต่อไปรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในกลางปี 2568 และผู้ที่ได้รับอนุมัติจะต้องเตรียมความพร้อมเปิดดำเนินธุรกิจภายใน 1 ปี
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- GPSC: ราคาพื้นฐาน 41.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GPSC โดยมีปัจจัยหนุนจากต้นทุน JKM LNG ที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ 11.37 ดอลลาร์/mmbtu ลดลง 21% ตั้งแต่ต้นปี และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 33.20 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคา pool gas โดยรวมมีโอกาสปรับตัวลดลง ซึ่งทุกๆ 10 บาท/mmBTU ที่ลดลงจะส่งผลดีต่อกำไร GPSC ประมาณ 5% นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 2.01% จาก 2.3% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลเป็น sentiment เชิงบวกต่อเนื่องสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ปรับตัวลงมามากในปีนี้ ปัจจุบัน GPSC ซื้อขายอยู่ที่ระดับ P/E ปี 2025 ประมาณ 16.x เท่า พร้อมกำไรในปี 2568 ที่มีโอกาสเติบโตประมาณ 17%
- TIDLOR: ราคาพื้นฐาน 19.75 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TIDLOR สำหรับปี 2568 โดยเป็นบริษัททำธุรกิจจำนำทะเบียนขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมทั้งธุรกิจนายหน้าประกันที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ นอกจากนี้ เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์อาจมีโอกาสปรับตัวได้ดีกว่าที่คาดจากการปรับกระบวนการติดตามหนี้และการจัดสรรทรัพยากรในการเก็บหนี้ พร้อมทั้งทำการตัดหนี้สูญเชิงรุกในช่วงปี 2566-2567 ที่ผ่านมา ทำให้ลูกหนี้กลุ่มใหม่มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด จากราคารถมือสองที่หยุดปรับตัวลดลงและมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในครึ่งแรกของปี 2568 โดยราคารถมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นปัจจัยเชิงบวกสนับสนุนได้ในช่วงนี้
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB Main Refinancing Rate) ตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐรายงานจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (US Housing Starts) ของสหรัฐ เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.41 ล้านหลัง ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.50 ล้านหลัง และ รายงานใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน (US Building Permits) ของสหรัฐ เดือน มี.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.45 ล้านหลังเร่งตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.46 ล้านหลัง
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน มี.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.70% YoY และ เงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.60% YoY