Daily Focus: SET สัปดาห์นี้ลุ้นทดสอบ 1,157-1,160 จุด

2025 SET Target: 1180

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นดีกว่าที่คาด ปิดบวก 9.67 จุด ที่ระดับ 1,150.95 จุด ผ่านแนวต้านระยะสั้นที่ 1,146 จุดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางเพียง 2.8 หมื่นลบ.เนื่องจากหลายตลาดปิดทำการในวัน Good Friday นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิในตลาดหุ้นสูงสุด 1.1 พันลบ. ส่วนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิบางๆ 264 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น 1.3 พันลบ. (แต่พลิกมา Long Index Futures 5 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่ง Sideways โดยมีแนวต้านหลักที่ 1,157-1,160 จุด บรรยากาศการลงทุนคาดว่าจะคึกคักมากขึ้น หลังตลาดเอเชียส่วนใหญ่เริ่มกลับมาเปิดทำการ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ตลาดรอติดตามยังอยู่ที่พัฒนาการข่าวการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศต่างๆ โดยสำหรับไทยได้คิวเข้าเจรจาวันที่ 23 เม.ย. นี้ นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวเลขส่งออกของไทยเดือน มี.ค. ที่คาดประกาศสัปดาห์นี้ ตลาดคาด +14% y-y แข็งแกร่งต่อเนื่องจากการเร่งส่งออกก่อนมาตรการภาษีของทรัมป์ที่เริ่มเดือน เม.ย. และคาดว่าตัวเลขใน 2Q25 จะยังแข็งแกรงต่อ หลังสหรัฐฯ ชะลอแผนเก็บภาษีเต็มรูปแบบออกไป 90 วัน และเปิดทางเจรจา ภาพรวมเศรษฐกิจและบรรยากาศการลงทุนคาดว่ายังคงมีความไม่แน่นอน แต่ในแง่ความผันผวนคาดว่าจะไม่รุนแรงเท่ากับช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามว่าผลกระทบจากภาษีทรัมป์จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลก รวมถึงสหรัฐฯชะลอตัวมากน้อยเพียงใด เราคาดว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะยังทำให้หุ้นกลุ่ม Consumer Staple จะยังปรับตัวได้ดีกว่าตลาด นอกจากนี้โฟกัสยังอยู่ที่การทยอยคาดการณ์และประกาศกำไร 1Q25 ซึ่งเปิดโอกาสให้เก็งกำไรในหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการแข็งแกร่ง

กลยุทธ์ : ยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มกำไร 1025-2025 แข็งแกร่งและกระทบจำกัด ต่อความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว

หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BA, BBL, CPF, HMPRO, OSP

FSSIA Portfolio: BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR

หุ้นเด่น Finansia 21 เม.ย. 25 : SAV

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท
  • เราคาดกำไรปกติ 1Q25 ที่ 142 ลบ. +4% q-q, +45% y-y ทำ Record High จากปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศและ Overflight ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง หนุนจากภาคการท่องเที่ยวเวียดนามที่เติบโดต โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเวียดนาม +30% y-y ใน 1Q25 หนุนจากคนจีน 
  • เราคาดกำไรปกติปี 2025 ที่ 575 ลบ. +12% y-y ส่วนการเติบโตระยะยาวได้แรงหนุนจากการลงทุนในภาคการบินใหม่ใน Asia Pacific เช่นการสร้างสนามบินใหม่ในกัมพูชา เวียดนาม รวมถึงแผนการเพิ่มจำนวนเครื่องบินของ Vietjet เป็นต้น
  • แนวรับ 15.50//15 บาท แนวต้าน 16.20-16.50//17 บาท

Fund Flow : เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลออกจากภูมิภาคสุทธิต่อเนื่องอีก US$680 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$552 ล้าน รองลงมาคือเกาหลีใต้ US$88 ล้าน ส่วนไทยไหลออก US$40 ล้าน ขณะที่หลายตลาดปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะผสมผสาน โดยรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมทั้งพัฒนาการเจรจาการค้า ตัวเลขเศรษฐกิจ และการประกาศกำไรบจ. 1Q25

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) KTB กำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 1.17 หมื่นลบ. +3% y-y, +6.6% q-q ดีกว่าที่เราคาด 11% และ consensus 3% ปัจจัยหลักมาจากสินเชื่อหดตัวน้อยกว่าคาดที่ 1.3% q-q ขณะที่เราคาดหดตัว 2% โดยสินเชื่อภาครัฐเติบโต แต่สินเชื่อบรรษัทมีการชำระคืนหนี้, มีการรับรู้กำไรจากเงินลงทุน ที่ 1.68 พันลบ. และการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีกว่าคาด คุณภาพสินทรัพย์ภาพรวมทรงตัว และจะเป็นไปตามที่เราคาด NPL ที่ 3.57% ROE อยู่ที่ 10.5% สูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ คงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย 26.50 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) TTB กำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 5.1 พันลบ. -4.5% y-y, -0.3% q-q ต่ำกว่าที่เราคาด 4.5% แต่ใกล้เคียงกับ consensus หลักๆ มาจากรายได้ที่ต่ำกว่าคาด ทั้งรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง ตามสินเชื่อที่หดตัว 2.4% q-q และรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ย TTB ยังใช้ผลประโยชน์ทางภาษี โดยกลับรายการและรับรู้เป็นรายได้ tax rate -5% สูงกว่าคาดเล็กน้อย คุณภาพสินทรัพย์เป็นไปตามที่เราคาด โดย NPL ratio 3.26% คงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย 2.05 บาท จากรายได้ที่ลดลงต่อเนื่องตามสินเชื่อที่หดตัวตลอด 3 ปี แต่ผลประโยชน์ทางภาษี จะประคองกำไรทรงตัว ยังแนะนำ “ถือ”

(0) ICHI คาดรายได้ 1Q25 ลดลง 9% q-q และ 15% y-y จากสภาวะอากาศที่เย็นกว่าคาดในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่เราเคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่บริษัทตัดค่าใช้จ่ายลงอย่างหนักเพื่อประคองกำไร เราคาดกำไรสุทธิ 1Q25 อยู่ที่ 296 ลบ. +43% q-q, -19% y-y แม้เราจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้ใน 2Q25 จาก High season ของธุรกิจและมีรายได้จาก OEM เพิ่ม อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ลง 8.5% จากการปรับลดสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น เป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.27 พันลบ. -3% y-y ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 14.60 บาทแต่ด้วย Valuation ถูก และ Div. yield สูงถึง 9% ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) MOSHI คาดกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 140 ลบ. -32% q-q, +11.6% y-y จาก SSSG ที่คาดว่าจะ +8% y-y สูงกว่า +0.4% y-y ใน 1Q24 แต่ต่ำกว่า +15.4% y-y ใน 4Q24 ที่เป็น High Season-ของธุรกิจ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ที่เป็นค่อนข้างมากกว่าปกติ และเปิดสาขาใหม่อีก 6 แห่ง ภาพรวมตลาดสินค้า life style ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้จะผ่าน Peak Season และกำลัง ซื้อในประเทศอ่อนแอ สังเกตได้จาก SSSG ในช่วง 1Q25 ที่ยังเป็นบวกกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งปี +3.5% y-y MOSHI ยังมีแผนเปิดร้าน MOSHI เพิ่มอีก 40 แห่งในปีนี้ คงคาดกำไรสุทธิปี 2025 ที่ 581 ลบ. +12% y-y และราคาเป้าหมาย 50 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้นยุโรป ตลาดน้ำมัน ตลาดทองคำ และตลาดเงิน นิวยอร์ก ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday

(0) ตลาดหุ้นเอเชียบวกสลับลบ รอผลการประชุมธนาคารกลางของประเทศจีน (PBoC)

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 952.29/-

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20 เม.ย.จีน: Loan Prime Rate
22 เม.ย.IMF/World Economic Outlook
24 เม.ย.สหรัฐ: Exiting Home Sales (มี.ค.), Durable Good Order (มี.ค.)
25 เม.ย.ไทย: ส่งออก (มี.ค.)

อังกฤษ: ค้าปลีก (มี.ค.)

26 เม.ย.IMF/World bank Spring Meetings
- Advertisement -