บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 16 จุด (-1.41%) ปิดที่ระดับ 1,135 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 339 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 156 บริษัท) จีนเตือนประเทศต่าง ๆ หากยอมทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แล้วสร้างความเสียหายกับจีนจะถูกดำเนินการตอบโต้จากจีนอย่างเด็ดขาด Sector ที่ปรับลงกดดัชนีวันนี้ คือ กลุ่มพลังงาน (GULF, PTT, PTTEP), กลุ่มธนาคาร (KTB, SCB, TTB), และ กลุ่มค้าปลีก (CRC, HMPRO, GLOBAL, DOHOME) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ ICT (TRUE, THCOM)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
PTTEP (-2.43%), PTT (-0.81%) มีจิตวิทยาลบราคาน้ำมันดิบในตลาดฟิวเจอร์ปรับลง กังวล IMF และ World Bank ประชุมร่วมกันในสัปดาห์นี้ อาจจะปรับลดคาดการณ์ World GDP สะท้อนผลกระทบจาก Trade war ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดฟิวเจอร์ลดลง 2$/bbl หรือ 3.17%
TOP (-4.07%), SPRC (-5.66%), BCP (-1.38%) ค่าการกลั่นล่าสุดปรับลงสู่ระดับ 2.64$/bbl (-7.7%d-d) และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงในเดือน เม.ย. หากไม่ฟื้นตัวขึ้นจะทำให้ผู้ประกอบการโรงกลั่นเสี่ยงบันทึก Stock loss ใน 2Q25F
SCC (-3.87%), IRPC (-2.35%), PTTGC (-1.10%) ผิดหวังส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรฯ (Spread) HDPE-Naphtha ปรับลงต่ำกว่าระดับ 400 $/ton ซึ่งเป็นจุดคุ้มทุน (Break-even) ของผู้ประกอบการกลุ่มปิโตรฯ โดยอิงราคาเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2025 HDPE-Naphtha ลดลงสู่ระดับ 393$/ton จาก 430$/ton ในสัปดาห์ก่อนหน้าหรือลดลง 8.6%w-w เป็นจิตวิทยาลบกดดันหุ้นในกลุ่มปิโตรฯ โดยเฉพาะสาย Naphtha base เช่น SCC
KTB (-5.16%), SCB (-2.17%), TTB (-3.70%) ผิดหวังงบ 1Q25 จาก NIM ลดลง, และบางธนาคาร NPLs กลับมาสูงขึ้น ประกอบกับนักลงทุนคาดการณ์ว่าการประชุมของ กนง. ในสัปดาห์หน้า (30 เม.ย.2025) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2% เป็น 1.75% กดดัน NIM ลดลงต่อเนื่องใน 2H25 เบื้องต้นนักวิเคราะห์ของเราประเมินการลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายทุกๆ 0.25% จะกระทบกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารประมาณ 5%
