UNIQ เตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย [6.25 – 6.50]% ต่อปี เสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่และสถาบัน ผ่าน 5 สถาบันการเงิน คาดเสนอขายกลางเดือนมิถุนายน 2568

บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย เตรียมเสนอขายหุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [6.25 – 6.50]% ต่อปี ให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน โดยคาดว่าจะเสนอขายในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2568 ผ่านสถาบันการเงิน 5 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงไทย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บล.บลูเบลล์ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ และ บล.พาย  เผยอันดับเครดิตองค์กรระดับ BBB- และอันดับเครดิตหุ้นกู้ระดับ BB+ จากทริสเรทติ้ง ชี้เป็นโอกาสดีของผู้ลงทุนที่จะได้ลงทุนในหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจ ที่ออกโดยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต ด้วยปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่ระดับ 43,570 ล้านบาท

นายเติมพงษ์  เหมาะสุวรรณ  รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

นายเติมพงษ์  เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) “บริษัทฯ” หรือ “UNIQ” บริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้  อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง [6.25 – 6.50]% ต่อปี ซึ่งบริษัทฯ จะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) และผู้ลงทุนสถาบัน คาดว่าจะเสนอขายในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2568 ผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)

สำหรับหุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ที่ระดับ BB+ ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ BBB-  สะท้อนถึงขีดความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทในการรับงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ

ทั้งนี้ UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน

ลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บมจ.ท่าอากาศยานไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น ทำให้ความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากงานของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

“UNIQ มีความพร้อมด้านการบริหารจัดการในงานก่อสร้างโครงการของภาครัฐ โดยได้นำเทคโนโลยีก่อสร้างใหม่ ๆ (Construction Technology) เข้ามาเพื่อพัฒนาวิธีการก่อสร้างให้ทันสมัย และได้นำเทคโนโลยีด้านไอที (Intelligence Technology) มาพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด โดยในปี 2568 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้ารับงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งภายในประเทศและในอินโดไชน่า เราจึงมั่นใจว่า ภายใต้การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงประวัติการออกหุ้นกู้ที่บริษัทฯ ไม่เคยผิดนัดหรือเลื่อนชำระดอกเบี้ยและเงินต้น เราเชื่อว่าด้วยอายุของหุ้นกู้ที่ 2 ปี พร้อมทั้งอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลงจะทำให้หุ้นกู้ UNIQ ในครั้งนี้ เป็นที่สนใจของผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบันเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา” นายเติมพงษ์กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 10,448.46 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 183.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 44.08%  โดยบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการใหม่ 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.งานก่อสร้างบ่อพัก ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินและฐานอุปกรณ์ไฟฟ้า พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้า โครงสร้างเปลี่ยนระบบสายฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ สัญญาที่ 4 ของการไฟฟ้านครหลวง 2.งานก่อสร้างวางท่อประปาและงานที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการเพิ่มขนาดท่อประธานในถนนประชาธิปก และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน พร้อมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย 3.งานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน พร้อมโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญา 1 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ส่งผลให้งานในมือ (Backlog) ของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 อยู่ที่ 43,570ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571 นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังคาดว่าจะได้รับชำระหนี้ค่าจ้างของโครงการสายสีแดง สัญญาที่ 1 (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด การชำระหนี้ดังกล่าวจะช่วยเสริมฐานะการเงินของบริษัทฯ รวมถึงอัตราส่วนโครงสร้างทางการเงิน (Leverage ratio) จะปรับตัวดีขึ้นต่อไป

สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบันที่สนใจหุ้นกู้ UNIQ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสถาบันการเงินที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือโทร 0-2111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ที่เป็นบุคคลธรรมดา

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 0-2695-5555

บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999

บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-660-6688

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-205-7000 ต่อ 7387

 

- Advertisement -