BPS ผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผล 0.0125 บาท/หุ้น พร้อมพัฒนาธุรกิจยั่งยืนตามหลัก ESG รายได้ปี 68 โตต่อเนื่องด้วยกลุ่มเทคโนโลยี

BPS ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2568 อนุมัติปันผลเป็นเงินสด 0.0125 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 เตรียมจ่ายปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์พัฒนาธุรกิจ 5 ด้าน มุ่งเน้นพัฒนาระบบให้บริการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนตามหลัก ESG มั่นใจเป้าหมายรายได้ปี 2568 เติบโตต่อเนื่องด้วยกลุ่มเทคโนโลยี

นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือBPS ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานประจำปี 2567 และ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0125 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท  โดยกำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568

ด้านทิศทางธุรกิจปี 2568 บริษัทมุ่งสร้างการเติบโตของรายได้ตามเป้าหมายด้วยกลุ่มเทคโนโลยีที่ 10%ภายใต้แผนการดำเนินงานในหลากหลายด้าน ทั้งการพัฒนาบริการหลัก ขยายฐานการตลาด และ เพิ่มโอกาสการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคอุตสาหกรรม เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำโซลูชันด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจพลังงานสะอาดในประเทศไทย ผ่านการดำเนินงานในธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญใน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ การขยายตลาด Kitting Box โดยมุ่งนำเสนอบริการจัดชุดอุปกรณ์ไฟฟ้าสำเร็จรูป (Kitting Box) ให้กับกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหม่ และ ขยายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เช่น กระเบื้องหลังคาเซรามิก และ Modular Home เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม และรีสอร์ท

ขณะที่ บริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการสำหรับการขยายธุรกิจระบบเครือข่ายอินเตอร์ความเร็วสูงโดยใช้สายใยแก้วนำแสง หรือ Fiber Optic (FTTx) เพื่อขยายโครงข่าย Fiber Optic ไปยังพื้นที่จังหวัดเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดชลบุรี รวมถึงพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในเขตต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของความต้องการบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

อีกทั้ง บริษัทพัฒนารูปแบบการขายสินค้ากลุ่ม Smart Home ทั้งในช่องทางการขายตรง (Direct Sales) ที่ให้บริการให้คำปรึกษาและติดตั้งถึงที่ และช่องทางการขายออนไลน์ (Online Sales) ให้กับธุรกิจที่มีความต้องการ เพื่อขยายฐานลูกค้า และ ปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว

ด้านโครงการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งบริษัทร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ได้แก่ บมจ.กรุงเทพแกรนด์แปซิฟิคิลีส (BGPL) และ บมจ.เอเชียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) เพื่อพัฒนาระบบโซลาร์รูฟท็อปในรูปแบบ Power Purchase Agreement (PPA) โดยอุปกรณ์ที่ติดตั้งจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าเมื่อสิ้นสุดสัญญา ซึ่งตั้งเป้าการขยายฐานการให้บริการติดตั้งโครงการดังกล่าว 2 เมกะวัตต์ในปี 2568

ขณะเดียวกัน บริษัทพัฒนาบริการระบบเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการผสานเทคโนโลยีกล้องวงจรปิด (CCTV) ร่วมกับบริการรักษาความปลอดภัย (รปภ.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษาความปลอดภัย และ เป็นการช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้าจากใช้บริการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิม

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และ การมีบรรษัทภิบาลที่ดีตามแนวทาง ESG (Environment, Social, Governance) ผ่านนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (Anti-Corruption) อย่างเคร่งครัด ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด อาทิ โครงการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป พร้อมการดำเนินงานที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ

- Advertisement -