ผถห.IND ขานรับมติจ่ายเงินปันผล 0.015 บ./หุ้น โชว์ Backlog ทะลุ 1.6 พันลบ. มั่นใจปั๊มผลงานปี 67 โตเกิน 15 %
ผู้ถือหุ้น บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) พร้อมใจโหวตรับมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 21 พ.ค.67 ด้านซีอีโอ “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” ประเมินอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างปีนี้ฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หนุนบริษัทฯ คว้างานใหม่เพิ่ม ดัน Backlog พุ่งจาก ณ วันที่ 31 ธ.ค. 66 มีอยู่ประมาณ 1,606.77 ล้านบาท มั่นใจผลงานปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15%
ดร.พรลภัส ณ ลำพูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2566 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นไม่เกิน 5,250,000 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2567
“บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ ปี ซึ่งเงินปันผลที่มอบให้กับผู้ถือหุ้นในรูปของเงินสดครั้งนี้ เกิดจากการที่บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นและทุ่มเทดำเนินธุรกิจ อีกทั้งรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ๆ ที่ทยอยเข้ามา และทยอยส่งมอบงานในมือ (Backlog) ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพ และสร้างผลตอบแทนที่ดี” ดร.พรลภัส กล่าว
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีแรงขับเคลื่อนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัว ทำให้เห็นสัญญาณบวกที่ส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ เพราะมีโอกาสเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสและช่องทางธุรกิจใหม่ๆ ในการสร้างรายได้เพิ่ม โดยได้ศึกษาธุรกิจใหม่ๆ เกี่ยวกับพลังงานสะอาด ทั้งรูปแบบงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) รวมถึงรูปแบบการลงทุนเองเพื่อเพิ่มเติมการลงทุนที่มีในปัจจุบันและผลักดันการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไปได้ในระยะยาว ซึ่งมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 15% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่ประมาณ 1,606.77 ล้านบาท (ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566)