STA โชว์ความคืบหน้าได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย. เป็นที่เรียบร้อย บนที่ดินของบริษัทในจังหวัดลำปาง เพื่อขายเมล็ด ใบ และรากทั้งหมดที่ได้จากการปลูกแก่ลูกค้าตามที่ตกลงทำสัญญากันไว้ รุกสร้างความแตกต่างโดยนำหลักการ Digital Traceability มาใช้กับทุกผลผลิตจากไร่ สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเมล็ดและรับชมแปลงปลูกด้วยระบบดิจิทัลแบบเรียลไทม์ หวังหวังปั้นธุรกิจใหม่เสริมทัพกลุ่มศรีตรัง

 

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ศรีตรัง รับเบอร์แอนด์แพลนเทชั่น จำกัด (SRP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ยื่นขอใบอนุญาตปลูกกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขยายการลงทุนสู่ธุรกิจปลูกกัญชงในระดับต้นน้ำ โดยนำองค์ความรู้และทรัพยากรของบริษัท เช่น ที่ดินเพื่อการเพาะปลูกมาใช้ต่อยอดขยายธุรกิจดังกล่าว ตามที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศ ปัจจุบัน SRP ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเข้าสู่ธุรกิจปลูกกัญชงอย่างเต็มตัว

ทั้งนี้ หลังจากได้รับใบอนุญาตดังกล่าวแล้ว บริษัทสามารถดำเนินการปลูกกัญชงบนที่ดินของบริษัทในพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เพื่อจำหน่ายเมล็ด ใบ และรากกัญชงทั้งหมดที่มาจากการปลูกแก่ลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อหรือตกลงทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก อาทิ Arsenic (สารหนู) Cadmium (แคดเมียม) Lead (สารตะกั่ว) และ Mercury (ปรอท) เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมกัญชงกลางน้ำและผลิตภัณฑ์ปลายน้ำต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตล็อตแรกจากแปลงทดลองได้ในต้นปี 2565

ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ปลูกกัญชงรายอื่นๆ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจในระยะยาว โดยนำหลักการ Digital Traceability หรือการตรวจสอบข้อมูลแบบดิจิทัลมาใช้กับทุกผลผลิตกัญชงของบริษัทที่จะส่งมอบแก่ลูกค้าตามคำสั่งซื้อ เช่น สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์ รับชมภาพแปลงปลูกกัญชงแบบเรียลไทม์ เป็นต้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ไร่กัญชงของบริษัทให้ความเชื่อมั่นและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว

“บริษัทมีจุดมุ่งหมายยกระดับการปลูกกัญชงให้เป็นมาตรฐานและมีศักยภาพ หนุนการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต นอกจากการผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติที่เป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน โดยกรณีที่ตลาดมีความต้องการเมล็ด ใบและรากกัญชงอย่างต่อเนื่อง บริษัทพร้อมขยายพื้นที่ปลูกเพื่อเก็บผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินพร้อมใช้เป็นแปลงปลูกกัญชงอีกเป็นจำนวนมาก” นายวีรสิทธิ์ กล่าว

*****************

- Advertisement -