Daily Focus: Earnings and Selective Play
2024 SET Target : 1470
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดในกรอบค่อนข้างแคบ ก่อนจะมีแรงขายในช่วงปิดตลาดออกมากดดันเป็นวันที่ 2 ทำให้ดัชนีปิดลบเล็กน้อย 3.04 จุด ณ สิ้นวัน ที่ระดับ 1,373.33 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ทรงตัวราว 4.2 หมื่นลบ. ตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นหลังปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้า สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิบางๆ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่น 1.5 พันลบ. (และพลิกมา Short Index Futures สูงถึง 3.6 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,368-1,380 จุด โดยตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นโดยไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ โฟกัสอยู่ที่ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือน เม.ย. ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะกำหนดทิศทางของสินทรัพย์เสี่ยงและเป็นข้อมูลใหม่สำหรับตลาดในการประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ FED ว่าจะยังเกิดขึ้นในปีนี้เริ่มในเดือน ก.ย.ได้หรือไม่ ส่วนในประเทศโฟกัสยังอยู่ที่การประกาศผลประกอบการ 1Q24 ของบจ. โดยตัวเลขเท่าที่ประกาศออกมาแล้วเบื้องต้นดูดีกว่าที่ตลาดคาดราว 6% ซึ่งเป็นสัญญาณบวก หากประกาศครบแล้วไม่ต่ำกว่าคาด เราเชื่อว่าจะช่วยจำกัด Downside ของประมาณการ EPS ปี 2024 ของเราที่ราว 91.50 บาท และทำให้เรายังคงมุมมองว่า SET Index น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในรอบที่ผ่านมา กลยุทธ์เราจึงเน้นถือลงทุนต่อเนื่องและเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มีแนวโน้มกำไรโดดเด่นกว่าตลาด เรายังมองกลุ่ม Domestic Play ยังน่าสนใจ โดยคาดได้อานิสงส์เชิงบวกจากทิศทางเศรษฐกิจไทยที่จะทยอยเร่งตัวใน 2Q24-2H24 ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวรวมถึงแรงหนุนจากนโยบาย Digital Wallet ปลายปี
กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่แนวโน้มกำไร 1Q24 โดดเด่น // ส่วนที่สะสมไปแล้วบริเวณ 1,350+- ยังถือลงทุน
หุ้นเด่นเดือน พ.ค.: BDMS, CPALL, ITC, NSL, TU
FSSIA Portfolio: AOT, BMS, CPALL, CPN, GPSC, NSL, SHR, SJWD, TIDLOR and TU
หุ้นเด่นวันนี้ : BDMS
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35 บาท
- เราคาดกำไร 1Q24 ที่ 4 พันลบ. +1% q-q, +16% y-y ทำ Record High หนุนจากรายที่เติบโตแกร่งทั้งจากผู้ป่วยไทยและต่างชาติในระดับ Double Digit ขณะที่ Margin คาดว่าจะขยับตัวขึ้นต่อจาก Operating Leverage
- โมเมนตัมกำไร 2Q24 คาดว่าจะชะลอ q-q ตามฤดูกาล แต่คาดว่ายังเติบโตแกร่ง y-y และได้อานิสงส์จากช่วงรอมฎอรที่คร่อมอยู่ในช่วง 2Q24 น้อยกว่าปีก่อน เรายังคาดกำไรปกติปี 2024 ที่ 1.64 หมื่นลบ. +14% y-y
- แนวรับ 28.50-28 บาท แนวต้าน 30//31 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลเข้าภูมิภาคแต่ปริมาณบางลงเหลือ US$266 ล้าน ยังคงนำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$294 ล้าน และ US$132 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย ประเทศละ US$41-68 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่าจะทรงตัวโดยขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นและไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โฟกัสอยู่ที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯสัปดาห์หน้า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) TU กำไรสุทธิ 1Q24 ออกมาที่ 1.15 พันลบ. พลิกจากขาดทุนใน 4Q23 และ +13% y-y หากตัด FX Gain และ Impairment Loss ออก กำไรปกติจะอยู่ที่ 900 ลบ. -24% q-q, +12%y-y ใกล้เคียงคาด หนุนจาก Gross Margin ที่ปรับขึ้น ส่วนรายได้ Ambient เติบโตได้ดี เราเชื่อว่ากำไร 1Q24 เป็นจุดต่ำสุดของปี และจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาสถัดๆ ไป เรายังคงประมาณการกำไรปี 2024 ที่ 5 พันลบ. +7% y-y คงราคาเป้าหมาย 17.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) SNNP กำไรสุทธิ 1Q24 ออกมาที่ 158 ลบ. -5% q-q, +2% y-y ใกล้เคียงคาด แต่ Performance โดยรวมเรามองเป็นลบอ่อนๆ รายได้ปรับตัวลง 12% q-q จากทั้งรายได้ในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ Gross Margin ปรับตัวขึ้นทำ New High ที่ 29.5% ช่วยชดเชยเราคาดแนวโน้ม 2Q24 จะยังเติบโตได้จากฤดูร้อนที่หนุนสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม รวมถึงการใช้กำลังการผลิตในโรงงานเวียดนามที่เพิ่มขึ้น เรายังคาดกำไรปี 2024 ที่ 785 ลบ. +23% y-y คงราคาเป้าหมาย 22 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) SHR กำไรปกติ 1Q24 ออกมาที่ 129 ลบ. +99% q-q หนุนจาก Peak Season แต่ -11% y-y ดีกว่าที่เราคาด 18% แต่ใกล้เคียงตลาดคาด จากรายได้อื่นๆที่สูงกว่าคาด ด้าน Operation ได้แรงหนุนจากโรงแรมทั้งมัลดัฟท์ ไทย และ Outrigger ที่มี Rev Par เติบโต Double Digit มีเพียง UK ที่ค่อนข้างทรงตัวจากสัญญาระยะยาวที่หมดในบางโรงแรม แนวโน้ม 2Q24 คาดว่าจะขาดทุนลดลงจากปีก่อน ยังคาดกำไรปกติปี 2024 ที่ 307 ลบ. +285% y-y ด้าน Valuation ยังถูก คงราคาเป้าหมาย 4 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) TTA คาดกำไรปกติ 1Q24 ที่ 503 ลบ.ดีขึ้นจากขาดทุนใน 4Q23 และ 1Q23 หนุนจากธุรกิจเรือที่ปรับตัวขึ้น y-y ขณะที่ธุรกิจนอกชายฝั่งและการเกษตรเข้า Low Season นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากบาทอ่อนที่ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เราคาดกำไรปกติปี 2024 ที่ 2 พันลบ. +67% y-y และคงราคาเป้าหมาย 8 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) HMPRO แนวโน้ม SSSG เดือนเม.ย. HomePro ติดลบราว 5% โดยยังมีผลกระทบของการไม่จัด HomePro expo รวมถึงสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ยังลดลงจากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติบโตได้เพียงเล็กน้อยส่วนหนึ่งจาก E-receipt ที่ดึง Demand ไปในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ขณะที่ SSSG ของร้าน MegaHome flattish และ HomePro-Malaysia ติดลบ 10-11% อย่างไรก็ตามแนวโน้มเดือนพ.ค. เริ่มเห็นเป็น Flattish และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของ SSSG ชัดขึ้นในครึ่งปีหลัง เรายังคงราคาเป้าหมายที่ 13.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 172.13 จุด หรือ +0.44% ปิดที่ 39,056.39 จุด และปิดที่เหนือระดับ 39,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ประเมินเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรายใหญ่
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ก่อนการเปิดเผยสถิติการค้าระหว่างประเทศของจีนเดือน เม.ย. รวมถึงรายงานค่าแรงของญี่ปุ่นในวันนี้
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.94 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.17%
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 78.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดช่วงบวกในขณะที่เช้านี้บวกอยู่ที่ระดับ 79.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.42%
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 2,322.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 2,316.80 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.24%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 830.47 / –