Asphere Innovations (AS) เผยกำไรไตรมาส 1/2567 เติบโต เดินทัพเต็มสูบหวังสร้างรายได้ปี 67 ตามเป้า
บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้ 351.6 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 9.8 และกำไรสุทธิ 76.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 76.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และหากเทียบกับไตรมาส 4/2566 รายได้มีการชะลอตัวลงร้อยละ 9.6 ในขณะที่กำไรสุทธิยังคงเติบโตร้อยละ 21.3
Mr. Gerry Ung ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงิน (CFO) บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในไตรมาสแรกของปี 2567 กลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์มีการเปิดตัวเกมโมบายล์ใหม่ 3 เกม (Black Moon เปิดให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Immortal Kingdoms ขยายการให้บริการเพิ่มเติมในประเทศเวียดนาม, Super Samkok Awakening ให้บริการในประเทศไทย) แม้ผลตอบรับของเกมยังไม่เป็นไปตามที่คาด แต่ด้วยฐานเกมเก่าที่ยังคงรักษากลุ่มผู้เล่นได้อย่างเหนียวแน่น ส่งผลให้รายได้มีการเติบโตขึ้น 31.4 ล้านบาท (ร้อยละ 9.8) จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ถึงแม้จำนวนเกมเก่าที่เปิดให้บริการอยู่มีจำนวนลดลงจากปีก่อนก็ตาม เมื่อประกอบกับการเพิ่มความเข้มข้นในการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย, ไม่มีค่าเผื่อการด้อยค่าลิขสิทธิ์เกมออนไลน์ (impairment) และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้กำไรสุทธิในเติบโตขึ้น 33.4 ล้านบาท (ร้อยละ 76.9)
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกับไตรมาสก่อนหน้า ด้านกำไรสุทธิยังคงเพิ่มขึ้น 13.5 ล้านบาท (ร้อยละ 21.3) จากเหตุผลที่กล่าวข้างต้น โดยในด้านรายได้มีการปรับตัวลดลง 37.3 ล้านบาท (ร้อยละ 9.6) ด้วยยังเป็นช่วงที่ 2 เกมโมบายล์ใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการในไตรมาส 3/2566 ยังสามารถสร้างโมเมนตัมได้ดี รวมถึงหากย้อนกลับไปมองภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ จะพบว่าช่วงปลายปีถือเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจจะมีรายได้สูงกว่าช่วงต้นปีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถือเป็นไปตามฤดูกาลของธุรกิจและปัจจัยความสำเร็จของการเปิดให้บริการเกมใหม่
โดยแผนการดำเนินงานในไตรมาสถัดไป กลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์ยังคงขับเคลื่อนตามกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยมีแผนเปิดเกมโมบายล์ใหม่ที่ให้บริการครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 2 ได้เปิดให้บริการเกม Immortal Kingdoms เพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ และเกมแนวแคชชวลอย่าง Wandering Ark ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากนี้ยังมีการเจรจาเป็นพันธมิตรกับบริษัทผู้พัฒนาเกมจากทวีปยุโรป เพื่อร่วมกันเปิดให้บริการเกม (Co-Publishing) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยเสริมทัพให้กลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์
สำหรับกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนและนวัตกรรม มีการเปิดให้บริการเกม TSX บนแพลตฟอร์ม Astronize อย่างเป็นทางการครอบคลุม 26 ประเทศทั่วโลกในวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผลตอบรับจากผู้เล่นเกมเกินความคาดหมาย โดยมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 200,000 ครั้งภายใน 2 สัปดาห์แรก และขึ้นอันดับ 1 เกมฟรีบน App Store, อันดับ 2 ของเกมแนว Role-Playing Game บน Google Play Store ในประเทศไทยซึ่งถือเป็นตลาดหลัก ตามมาด้วยประเทศเวียดนาม รวมถึงมีแผนเปิดให้บริการเกมใหม่เพิ่มเติมในช่วงปลายปี”