บล.กรุงศรีฯ:
SCGP – กำไร 3Q อ่อนแอ (TP Bt69.00, HOLD)
(27/10/2021 – 07:20)
กลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์
หุ้นSCGP
มูลค่าพื้นฐาน69.00
คำแนะนำHOLD
  • ประเด็นที่น่าสนใจจากงบการเงิน 3Q21

กำไร3Q 1.8 พันลบ. (EPS 0.41 บ.) -21%qoq แต่ +33%yoy (EPS -3% yoy)

ยอดขายเพิ่มขึ้น 7% qoq และ 37% yoy จาก M&P ของ SOVI, Go-Pak, Duy Tan และ Intan ยอดขายสาย integrated packaging chain (IPC) เพิ่มขึ้น 9% qoq และ 35% yoy จากการรวมยอดขายของ Duy Tan และ Intan เข้ามา ขณะที่ยอดขายสาย fibrous chain ลดลง 2% qoq แต่เพิ่มขึ้น 50% yoy จากบรรจุภัณฑ์ด้านอาหาร และการเข้าซื้อ Go-Pak นอกจากนี้อัตราค่าระวางเรือและต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูงขึ้น รวมถึงการใช้มาตรการ lockdown ในไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ EBITDA ลดลง 12% qoq และ EBITDA margin ก็ลดลง 4ppt qoq และ 3ppt yoy เหลือ 15% กำไรจากธุรกิจหลักที่ 1.5 พันลบ. ลดลง 33% qoq แต่เพิ่มขึ้น 6% yoy ทั้งนี้มีรายการพิเศษ 245 ลบ. จากอัตราแลกเปลี่ยน (280 ล้านบาท) และค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการอื่น (-35 ล้านบาท)  ดังนั้นกำไรสุทธิที่ 1.8 พันลบ. ลดลง 21% qoq แต่เพิ่มขึ้น 33% yoy ส่งผลให้กำไร 9M21 คิดเป็น 69% ของประมาณการกำไรปีนี้

  • แนวโน้ม

คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้น qoq ใน 4Q

ในการประชุมนักวิเคราะห์ผู้บริหารมองว่าอุปสงค์จะฟื้นตัวในเดือนต.ค. โดยเฉพาะในเวียดนาม ซึ่งคิดเป็น 12% ของรายได้รวม มาตรการ lockdown ที่เวียดนามทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ใน 3Q ต่ำกว่า 50% แต่มีการผ่อนคลายมาตรการแล้ว ทำให้จะเพิ่มขึ้นเป็น 75% ใน 4Q เราคาดว่าราคาถ่านหินที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลกับต้นทุน SCGP โดย SCGP ใช้ถ่านหินปีละ 2 ล้านตัน และทำสัญญาซื้อล่วงหน้าไว้แล้ว 100% สำหรับถ่านหินที่จะต้องใช้ในปีนี้ และ 50% สำหรับถ่านหินที่ต้องใช้ในปีหน้า SCGP ทำสัญญาซื้อถ่านหินล่วงหน้าไม่เกิน 70% ภายใน 2Q21

  • แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 69 บาท

SCGP จะปิดดีลซื้อ Deltalab (Spain) ใน 4Q21 เรายังไม่ได้รวมรายการนี้เข้าไว้ในแบบจำลองของเราเพราะต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน เราคงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 69 บาท คิดเป็น P/E ปี FY22F ที่ 28.0x และ EV/EBITDA ที่ 11.7x ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงสูงสำหรับหุ้นบรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก

- Advertisement -