KS Daily View 14.05.2024 >>> คาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลง มองอาจมี flow ซื้อเก็งกำไร ประเมิน SET ซื้อขายในกรอบ 1,370-1,380 จุด แนะนำ CPF, AAV

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้:

ประเมินดัชนีวันนี้แกว่งตัวรอพิจารณารายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ มองอาจมี flow ซื้อเก็งกำไรก่อนสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อช่วงคืนวันพุธ เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดคาดว่าทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯในเดือน เม.ย. อาจชะลอตัวลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยผลของฐานตัวดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่สูงในช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี เชื่อว่าupside ด้านบนยังจำกัด เนื่องจากความไม่แน่นอนยังมีสูง อีกทั้งช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา Fed สาขา New Yorkรายงานตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคในระยะ 1 ปีข้างหน้าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น กดดันให้ sentiment ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น เนื่องจากกังวลว่าอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินของ Fed แต่ด้วยบรรยากาศการลงทุนในตลาดโดยรวมยังไม่เสียทรงมากสะท้อนจากดัชนีหุ้นในต่างประเทศที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น, bond yield ที่ปรับตัวลง และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า จึงเชื่อดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจได้อานิสงค์บวกจากต่างประเทศช่วยหนุนในวันนี้ กอปรกับด้านราคาน้ำมันมีการฟื้นตัวขึ้นช่วงข้ามคืนอาจช่วยดันให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานสามารถพลิกรีบาวน์ได้บ้าง อีกกลุ่มที่น่าได้อานิสงค์บวกคือกลุ่มการเงินจาก bond yield ที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ดี นักลงทุนอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความเสี่ยงจากอุปสงค์จากจีนที่อาจลดลงจากผลกระทบที่สหรัฐฯเตรียมขึ้นภาษีรถ EV จากจีน กอรปต้นทุนของบริษัทที่อาจเพิ่มขึ้นตามราคาทองแดงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

สหรัฐฯรายงานตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้าจากแบบสำรวจของผู้บริโภค (Inflation expectation) อยู่ที่ระดับ 3.26% ในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นจาก 3.00% ในเดือน มี.ค. ซึ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่ทรงตัวระดับสูงเหนือเป้าหมายเงินเฟ้อของ Fed เป็นระยะเวลานานเริ่มส่งผลให้ผู้บริโภคปรับคาดการณ์ถึงระดับราคาสินค้าและบริการในอนาคตที่อาจเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสถานการณ์ ความคาดหวังสร้างความจริง (self-fulfilling prophecy) หรือกล่าวคือเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นจริงต่อเนื่องจากความเชื่อของคนที่ว่าเงินเฟ้อจะขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามและระมัดระวัง เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงอาจส่งผลให้ Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงต่อซึ่งจะเป็นลบต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง

กระทรวงการคลังของจีนวางแผนที่จะระดมทุน 1 ล้านล้านหยวน หรือ 1.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการออกพันธบัตรพิเศษระยะยาวที่มีอายุ 20 ถึง 50 ปี ในสัปดาห์นี้ โดยมีแผนเพื่อใช้สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มองเป็นบวกกับหุ้นที่เชื่อมโยงกับจีนอย่างกลุ่ม ปิโตรเคมี(PTTGC, IVL), ยางและถุงมือยาง (STA, STGT), เดินเรือ (PSL, RCL), และกระดาษ (SCGP) เป็นต้น

นาย พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยกำลังพิจารณาการนำกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมาเป็นเครื่องมือเพื่อจูงใจให้ประชนชนมีการลงทุนในตลาดทุนโดยจะให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี เพื่อช่วยให้มูลค่าตลาดทุนกลับมาแตะระดับ 1 ล้านล้านบาทอีกครั้ง โดยปัจจุบันอยู่ในช่วงระหว่างการศึกษา คาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า หากนำกลับมาใช้ได้จริงมองเป็นบวกกับตลาดโดยรวมจากกระแสเงินที่จะกลับเข้ามาในตลาดมากขึ้น

รัฐบาลเตรียมตั้งงบราว 1 หมื่นลบ. โดยให้ธนาคารออมสินและธ.ก.ส. เข้าช่วยแก้หนี้ให้กับลูกค้าที่เป็นหนี้เสียจากโครงการสินเชื่อโควิด-19 รายละไม่เกิน 10,000 บาท จากเครดิตบูโรจำนวนกว่า 1 ล้านราย  โดยจะตั้งงบประมาณราว 1 หมื่นลบ.เพื่อชดเชยให้กับหนี้ดังกล่าว มองเป็น sentiment บวกเล็กน้อยกับกลุ่มการเงิน

กระทรวงสาธารณะสุขเตรียมออกประกาศให้ กัญชา เป็นยาเสพติดแบบอ่อนโดย ผู้ปลูก ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย มีไว้ในครอบครอง แปรรูป ต้องออกกฎกระทรวงเพื่อการอนุญาต

Daily pick

CPF: ราคาพื้นฐานที่ 25.0 บาท 

บริษัทรายงานผลประกอบการ Q1/67 พลิกเป็นกำไรที่ 1.15 พันลบ. เทียบจากที่ขาดทุนสุทธิ 2.7 พันลบ. ในไตรมาสก่อนหน้า และเติบโตแรงแบบก้าวกระโดดถึง 852% YoY ผลประกอบการที่รายงานออกมาดีกว่าที่เราคาดว่าจะขาดทุนราว 2.5 พันลบ. และที่ตลาดประเมินไว้ว่าจะขาดทุน 2.9 พันลบ. โดยปัจจัยบวกมาจาก ราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง และกำไรจากบริษัทลูกและร่วมทุนที่ส่งกลับมาให้ในงบรวมปรับตัวดีขึ้น มองไปข้างหน้าคาด Q2/67 โตต่อ และภาพทั้งปี 2567 ประเมินผลประกอบการฟื้นแรง 221%

AAV: ราคาพื้นฐาน 3.0 บาท 

บริษัทรายงานผลประกอบการหลัก Q1/67 ที่ 1.6 พันลบ. โตแรง 188% QoQ และ 3651% YoY ดีกว่าที่เราคาด 50% และสูงกว่าที่ตลาดประเมินถึง 406% ผลกำไรหลักของบริษัทที่รายแข็งแกร่งมาจากแรงหนุนของจำนวนผู้โดยสาร ค่าโดยสารเฉลี่ย และอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ที่สูงขึ้น เราประเมินภาพทั้งปีผลประกอบการบริษัทจะฟื้นตัวแรง 291%อย่างไรก็ดี เรามองมีโอกาสด้านบวกที่อาจต้องปรับตัวเลขประมานการขึ้นเนื่องจากกำไรปกติ Q1/67 คิดเป็น 90% ของประมาณการทั้งปีของเราแล้ว

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร: ติดตาม ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (Core PPI) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน เม.ย. โดยตลาดคาดปรับตัวขึ้น +2.30% YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.40% YoY ต่อด้วยติดตามการให้สัมภาษณ์ของทางประธาน Fed Jerome Powell ซึ่งมีกำหนดการพูดที่กรุง Amsterdam ประเทศ Netherlands ในงาน Foreign Bankers Association (FBA) และในส่วนของไทยติดตามทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เตรียมเข้ายืนหนังสือต่อกระทรวงแรงงานหารือถึงประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
  • วันพุธ: ติดตาม รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ของสหรัฐ สำหรับเดือน เม.ย. ตลาดคาดปรับตัวขึ้น +3.40% YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.50% YoY และ Core CPI หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน เดือน เม.ย. โดยตลาดคาดปรับตัวขึ้น +3.60% YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.80% YoY ปิดท้ายด้วยตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail sales) ของสหรัฐ สำหรับเดือน เม.ย. โดยตลาดคาดปรับตัวขึ้น +0.40% MoM ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.70% MoM
  • วันพฤหัสฯ: ติดตาม รายงานตัวเลข GDP (Prelim) สำหรับ 1Q24 ของญี่ปุ่น โดยตลาดคาดชะลอตัวลงมาอยู่ที่ -1.4% QoQ annualized เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว +0.4% QoQ annualized ขณะที่ในส่วนของสหรัฐมีกำหนดรายงานตัวเลข building permits เดือน เม.ย. โดยตลาดคาดที่ 1.488 ล้านยูนิต ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.467 ล้านยูนิต ตามด้วย Initial Jobless Claims ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ที่ 2.25 แสนตำแหน่งปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่  2.31 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์: ติดตาม ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนอย่าง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม หรือ Industrial Production เดือน เม.ย. โดยตลาดคาดปรับตัวขึ้น +5.40% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +4.50% YoY และยอดค้าปลีก (Retail sales) ของจีน ในเดือน เม.ย. โดยตลาดคาดปรับตัวขึ้น +3.80% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.10% YoY
- Advertisement -